ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยจะย้ายผู้ต้องขังที่เป็นผู้ค้ารายใหญ่และรายกลางจำนวน 500-700 คน ไปรวมไว้ที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ว่า แนวทางดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ เนื่องจากที่ผ่านมาการคุมขังนักโทษที่กระจัดกระจาย เมื่อไปรวมกับผู้ต้องโทษคดีฆ่าชิงทรัพย์ ทำให้เกิดอิทธิพลโยงใย กลายเป็น"มหาโจร"เกรงว่าจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเดิมทีมีแผนจะสร้างเรือนจำใหม่ที่โคราช แต่คาดว่าไม่ทัน จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีการนี้ดีกว่า คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ก.พ.
"แนวทางดังกล่าวเมื่อไม่มีผู้ค้ารายใหญ่แล้วจะทำให้ผู้ค้ารายย่อยหรือผู้เสพลดลง ถึงแม้ว่าปัญหานี้จะไม่หมดไปแต่ก็มีจำนวนลดลงไปโดยปริยาย"รองนายกฯ กล่าว
ส่วนสถานการณ์ที่กลับมารุนแรงในขณะนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้ดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง ทำเพียงติดป้ายประกาศเตือน ทำให้ยังมีกลุ่มผู้ค้ายังมีโยงใยอิทธิพลกันอยู่
และการที่ตนพูดถึงการฆ่าตัดตอนไม่ได้เป็นการชี้ช่องอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าว แต่เป็นการเตือนกลุ่มผู้ค้าว่าเมื่องมีการจับรายใหญ่ได้ ก็จะเกิดการตั้งข้อสงสัยว่ารายย่อยเป็นสายให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ จึงเป็นที่มาของการฆ่าตัดตอน
นอกจากนี้ ได้มีการขอความร่วมมือจากสถานประกอบการต่างๆ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการควบคุมดูแล เนื่องจากยาเสพติด 60% อยู่ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และที่ผ่านมาพบว่ามีสถานประกอบการบางแห่งเปิดโต๊ะจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งไม่ว่าเจ้าของสถานประกอบการจะรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ก็ตาม หากมีการขอความร่วมมือแล้ว เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาได้มากยิ่งขึ้น
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงเรื่องปราบปรามเว็บหมิ่นฯที่ฝ่ายค้านออกมาตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลนิ่งเฉย ว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้มีการแถลงข่าว เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยมีการแถลงข่าวกัน ซึ่งจะต้องไปดูว่าเว็บเหล่านี้มีจำนวนลดลงหรือเพิ่มมากขึ้น