นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ตั้งกระทู้ถามสดสอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ก่อการร้ายและมาตรการการตรวจสอบและป้องกันเพื่อสกัดมิให้ผู้ก่อการร้ายสากลเข้ามายังราชอาณาจักรไทย โดยขอความชัดเจนว่าการสืบสวนการจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มีความคืบหน้าอย่างไร
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า มีแหล่งข่าวแจ้งมาตลอดว่ามีผู้ไม่หวังดีต่อรัฐบาล จนเดือนธ.ค.54 มีการจับกุมตัวนายอาทริส อุซเซน ซึ่งเข้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ โดยตนได้สั่งในทางลับให้ติดตามความเคลื่อนไหว และควบคุมตัว ตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง มาตรา 12(7) เมื่อพบว่าไม่มีความผิดก็ปล่อยตัวไป
จนกระทั่งวันที่ 12 ธ.ค.54 ไปตรวจพบเคมีภัณฑ์ในบ้านพักที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีผู้ก่อการร้ายอีก 1 คนหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ตำรวจจึงได้จับกุมตัวนายอาทีส ไปฝากขังไว้ที่ศาลอาญารัชดาในความผิดครอบครองยุทธโธปภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทราบว่ามีการเตรียมการมาประกอบที่เมืองไทยเพื่อนำไปก่อเหตุที่อื่น
นายศุภชัย กล่าวว่า ประเทศไทยมีมาตรการคัดกรองผู้ก่อการร้ายเข้าสู่ราชอาณาจักรไทยผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิอย่างไร สามารถดักก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้หรือไม่ ไม่ใช่ปล่อยให้มาเช่าบ้าน ซื้อปุ๋ยยูเรียจำนวนมากมายมหาศาล เจ้าหน้าที่ไทยมีวิธีแจ้งเตือนเหมือนนานาชาติที่สามารถรู้ตัวผู้ก่อการร้ายที่กำลังจะบินเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่
ร.ต.อ.เฉลิม ชี้แจงว่า บางครั้งเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากตำรวจสากล(อินเทอร์โพล) ซึ่งถ้าทราบก็จะนำรูปไปติดยังด่านตรวจ เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าประเทศ แต่ในประเด็นเรื่องการก่อการร้าย เราจะไม่เอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้อง หากเหตุไม่เกิดขึ้นในประเทศของเราก็ต้องปล่อยไป แต่ขอบอกว่าเรามีมาตรการของตำรวจ, สำนักข่าวกรอง ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมเผชิญปัญหา แต่จะไม่เอาประเทศไทยไปเป็นคู่ขัดแย้ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆรวม 21 ประเทศ ประกาศเตือนภัยในประเทศไทยนั้น หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปประเทศจีน และต่อมาประเทศจีนได้ถอนประกาศ รวมทั้งสหรัฐฯ และอื่นๆ รวม 8 ประเทศก็ถอนประกาศเตือน ยังคงเหลือแค่ 13 ประเทศเท่านั้น