ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวสนับสนุนคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กรณีที่ออกมาย้ำเตือนกลุ่มนิติราษฎร์ให้หยุดการเคลื่อนไหวสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 112 และอยากให้ผู้นำเหล่าทัพอื่นๆ ควรจะออกมาพูดบ้าง
อย่างไรก็ตาม ในความคิดของตัวเองยืนยันอยู่แล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 112 ไม่สามารถทำได้ แต่จะมาพูดเสียงเข้มเหมือนผบ.ทบ.ไม่ได้ เพราะตนเองเป็นนักการเมืองก็ต้องรับฟังความคิดเห็น แม้ว่าจะไม่เคยฟังข้อเรียกร้องของกลุ่มนิติราษฎร์เลยก็ตาม
"ผมเห็นด้วยกับ ผบ.ทบ. ทหารทุกคนยอมไม่ได้...แล้วทำไมไม่หยุดซะที อยากให้ ผบ.ทอ., ผบ.ทร., ผบ.สส. ออกมาประสานเสียงในเรื่องนี้ การที่นิติราษฎร์ยังคงเดินหน้าเรื่องนี้ คงเป็นความสุขส่วนตัว อยากออกทีวี"ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ในส่วนของรัฐบาลที่จะมีการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 โดยเริ่มมีกระแสข่าวว่า มี ส.ส.ที่สอบตกของพรรค หรือสมาชิกพรรค ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อขอเสนอตัวเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวยืนยันว่า ไม่มีการล็อกสเป็ค ซึ่งการเลือกผู้มาทำหน้าที่แต่ละตำแหน่งก็มีความแตกต่างกันไป เช่น การเลือก ส.ส. ผู้นำท้องถิ่น เลือก ส.ส.ร. ก็คนละแบบกัน
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาแสดงความเห็นว่า กกต.ไม่มีอำนาจจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.นั้น รองนายกฯ ระบุว่า ปัญหาทุกอย่างมีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีการเบิกจ่ายงบประมาณที่นำมาใช้ในการปราบปรามยาเสพติด ว่า การเบิกจ่ายงบประมาณได้จัดทำตามความเป็นจริง ไม่ได้มีการเบิกจ่ายมากเกินความเป็นจริงอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา
พร้อมชี้แจงว่า เรื่องบประมาณในการปราบปรามยาเสพติดนั้น จัดอยู่ในนโยบายหลักของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญ ซึ่งตามขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำเรื่องเสนอสำนักงบประมาณก่อนที่จะเสนอกรมบัญชีกลาง และต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องจาก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และหากผลดีและงบประมาณไม่พอ สามารถเบิกจ่ายจากงบกลางได้ โดยยืนยันว่า งบประมาณทุกอย่างตรวจสอบได้ และอยู่บลนพื้นฐานความซื่อสัตย์สุจริต
"แน่จริงก็ยื่นกระทู้สด...ที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูด อาจจะอิจฉาเลยพูดให้ดูคลุมเครือ" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว