นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)กล่าวว่า กรณีกลุ่มนิติราษฎร์ออกมาเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นยังเป็นไปตามกรอบของกฎหมายภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่หากมีเรื่องใดที่ขัดต่อข้อกฎหมายก็เป็นเรื่องที่หน่วยงานรับผิดชอบจะต้องเข้าไปดูแล
ขณะเดียวกันสังคมก็ต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟังและตัดสินใจด้วยตัวเอง หากรัฐบาลไปดำเนินการใดๆ ที่เป็นการปิดกั้นเสรีภาพทางความคิดของประชาชนก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งเหมือนในอดีตที่ผ่านมาได้
"สังคมต้องใช้วิจารณญาณ เพราะที่ผ่านมาเกิดการเรียนรู้แล้วว่าการปิดกั้นทางความคิดจะนำไปสู่ผลกระทบที่บานปลาย" นายรัฐวุฒิ กล่าว
แกนนำกลุ่ม นปช.ปฏิเสธว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ในเรื่องดังกล่าวไม่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งเชื่อว่าสังคมจะมีความเข้าใจดี แต่อาจมีบางฝ่ายที่พยายามสร้างความสับสนให้เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี รับบาล และพรรคเพื่อไทย ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องนี้แล้วว่าจะไม่เข้าไปแตะต้อง
ส่วนกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ออกมาระบุว่าให้รัฐบาลนำเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาจ่ายเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม เนื่องจากเป็นการออกมาชุมนุมเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่อยากเชื่อว่าความเห็นดังกล่าวออกมาจากปากนักการเมืองอาวุโส เพราะหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาจะครอบคลุมย้อนหลังไปถึง 5 ปี ไม่ได้มุ่งหวังที่จะเยียวยาเฉพาะกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ซึ่งรับบาลเชื่อว่าจะเป็นจุดหนึ่งที่จะนำไปสู่ความปรองดอง
"เป็นความคิดที่คับแคบ และไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความคิดที่มาจากคนระดับนายชวน ซึ่งผมขอถามว่า การที่มีท่าทีแบบนี้คำว่าปรองดองของพรรคประชาธิปัตย์คืออะไร ผมจะขออนุโมทนาด้วย ถ้านายชวนไม่เห็นด้วยก็ขอให้แสดงความคิดเห็นแบบมีเหตุมีผล" นายณัฐวุฒิ กล่าว