นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วม(วิป)ฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องมีหลักประกันกับประชาชนเพื่อให้สังคมคลายความกังวลเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะต้องประกาศว่าหากมีการแตะต้องหมวดที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ หรือยกเลิกองค์กรอิสระ หรือมีผลเป็นการล้างผิดเอื้อประโยชน์ให้แก่คนๆ เดียว รัฐบาลจะต้องไม่ยกมือรับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ทั้งนี้ จากความพยายามของรัฐบาลที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ฝ่ายค้านได้เตือนมาโดยตลอดว่าจะเป็นประเด็นที่จะนำสังคมไปสู่ความขัดแย้งและแตกแยก อาจจะนำประเทศไปสู่วิกฤตโดยไม่จำเป็น แต่ในที่สุดก็ดูเหมือนว่ารัฐบาลที่มีเสียงข้างมากยังมีความพยายามที่จะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญต่อไป เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อผลที่จะตามมาในอนาคต
วิปฝ่ายค้านมีข้อห่วงใยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการตั้ง ส.ส.ร.รอบนี้จะมีความแตกต่างจากการตั้ง ส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญในปี 2540 เพราะสังคมเคลือบแคลงสงสัยว่ามีเป้าหมายที่ซ่อนเร้นที่อาจจะนำไปสู่การล้างความผิดให้กับคนๆ เดียว โดยการอ้างประชาธิปไตยบังหน้า อีกทั้งไม่มีหลักประกันใดๆ ว่า ส.ส.ร.ทั้ง 99 คนที่จะได้มานั้นจะไม่เป็นร่างทรงของรัฐบาล
"ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะมั่นใจว่า ส.ส.ร. 77 คนที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งนั้น สุดท้ายแล้วรัฐบาลก็สามารถที่จะดำเนินการให้ได้คนของพรรครัฐบาลเข้ามาเป็น ส.ส.ร.ได้ ซึ่งดูได้จากการไม่กำหนดคุณสมบัติห้ามสมาชิกพรรคการเมืองเข้ามาเป็น ส.ส.ร.นอกจากนี้ยังมีนักวิชาการ 22 คนที่ระบุให้รัฐสภาเป็นผู้เลือก ซึ่งแน่นอนว่าองค์ประกอบของรัฐสภามีรัฐบาลเป็นผู้มีเสียงข้างมากในสภาฯ ซึ่งรัฐบาลสามารถชี้เป็นชี้ตายได้ว่าใครจะเข้ามาเป็นสมาชิก ส.ส.ร.ในนามนักวิชาการ" นายจุรินทร์ กล่าว
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าเมื่อตั้ง ส.ส.ร.ไปร่างรัฐธรรมนูญใหม่แล้วจะออกมาในรูปแบบที่สังคมกังวลหรือไม่ เช่น 1.ไม่มีหลักประกันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่แตะหมวด 2 ที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ 2.จะไม่ยกเลิกองค์กรอิสระ 3.ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าการแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้จะไม่เป็นการล้างผิดให้กับคนพิเศษที่เป็นเป้าหมายซ่อนเร้นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
"ไม่อยากให้สังคมหลงประเด็นที่รัฐบาลอ้างว่าจะไม่แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นการอ้างคนละเรื่องกัน และอีกสองเรื่องที่รัฐบาลบอกว่าจะไม่แก้ไข ก็คือ เรื่องของการปกครองประเทศไทยที่เป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่แก้ไขที่ประเทศไทยต้องเป็นรัฐเดียวแบ่งแยกไม่ได้ ซึ่งการที่รัฐประกาศว่าจะไม่แก้ไขสองประเด็นนี้ ถือเป็นภาคบังคับที่เขียนเอาไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้วว่าแก้ไขไม่ได้ เพราะฉะนั้นการกล่าวอ้างเช่นนี้ถือว่าไม่เพียงพอ"นายจุรินทร์ กล่าว