นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ว่า ตามกรอบเวลาแล้วหากในที่ประชุมรัฐบาลวันนี้ไม่ขอแก้ไขร่างเพิ่มเติม จะนัดหมายยื่นเรื่องกับประธานรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ตามกำหนดเดิม คาดว่าน่าจะบรรจุเข้าสู่การพิจารณาได้ทันภายในสมัยประชุมนี้ และอาจจะใช้เวลาในขั้นกรรมาธิการประมาณ 2 เดือน
ทั้งนี้ ในร่างเดิมของพรรคเพื่อไทยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนบางส่วนเพื่อความสบายใจของสมาชิก โดยเฉพาะประเด็นห้าม ส.ส. และ ส.ว. รวมถึงรัฐมนตรี มาเป็นสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แต่จำนวน สสร.ยังคงไว้ที่ 99 คน โดยจะเป็นตัวแทนของผู้เชี่ยวชาญภาคต่าง ๆ จำนวน 22 คน ส่วนการเลือกตั้ง สสร.จะมีการระบุไว้ในร่างแก้ไขให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ส่วนความเห็นที่ยังไม่ตรงกันเกี่ยวกับที่มาของ สสร. ที่หลายฝ่ายกังวลว่าหากมาจากการเลือกตั้ง อาจจะทำให้ยึดโยงอำนาจกับฝ่ายการเมือง นายอุดมเดช กล่าวว่า หากตัดสินใจให้มีการเลือกตั้ง สสร.เพื่อให้ยึดโยงกับภาคประชาชน ก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับดุลยพินิจของประชาชน ขณะที่ประเด็นความเห็นของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ยังไม่ตรงกันบางส่วน เบื้องต้นก็ได้พูดคุยกับตัวแทนของพรรคไปแล้ว ซึ่งจะนำความเห็นไปหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลอีกครั้ง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเงาของพรรคได้มีการหารือถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและมองว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังดำเนินการ อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะมีแนวโน้มที่จะใช้กระบวนการ สสร. มารองรับความต้องการผลักดันหลายเรื่อง โดยที่ไม่สามารถให้หลักประกันและความมั่นใจกับประชาชนได้ว่าจะไม่แตะในประเด็นที่มีความละเอียดอ่อน ดังนั้น ฝ่ายค้านจะติดตามตรวจสอบและอภิปรายให้ทุกฝ่ายได้เห็น พร้อมยืนยันพรรคจะไม่ส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไปประกบกับฉบับของรัฐบาล
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่าการตั้งคณะกรรมชุดใหม่ในการบริหารจัดการน้ำ มีความสับสนอยู่ เพราะเป็นเพียงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และมีกรรมการซ้อนกันอยู่หลายชุด จึงเห็นว่าการจัดองค์กรใหม่ควรกระชับมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญเวลานี้ควรเป็นรูปแบบของการเตรียมการที่เป็นรูปธรรมจริงมากกว่า ดังนั้น สัปดาห์หน้าพรรคจะติดตามการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีว่าพื้นที่ใดจะเป็นฟลัดเวย์ และจะมีโครงการใดบ้างแล้วเสร็จก่อนที่น้ำจะมา