นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยพ.ร.ก.กู้เงิน 2 ฉบับ คือพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศพ.ศ. 2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท และพ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินพ.ส.2555 วงเงิน 1.14 ล้านล้านบาท ที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นตีความ และนัดฟังคำตัดสินวันที่ 22 ก.พ.นั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นอกจากพรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชน ขัดขวางการทำงานไม่ให้รัฐบาลเดินหน้า ยังมีความพยายามสร้างความสับสนชี้นำประชาชนด้วยการออกมาระบุว่า หากพ.ร.ก.กู้เงิน 2 ฉบับดังกล่าว ไม่ผ่านการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ นายกฯต้องลาออกและรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่ใช่แบบนั้น การออกพ.ร.ก.เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ถ้าไม่ผ่านก็สามารถเปลี่ยนเป็นการออกเป็นพ.ร.บ.ปกติได้
"อยากขอร้องให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกขัดแข้งขัดขารัฐบาล จ้องทำลาย โดยไม่คำนึงถึงความต้องการของประชาชน เข้าลักษณะมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ"โฆษก พรรคเพื่อไทย กล่าว
นอกจากนี้ ทางพรรคเพื่อไทยจะมีการตั้งคณะทำงาน 4 ภาค ขึ้นมาตรวจสอบกรณีมีคนแอบอ้างความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และอ้างความเป็นข้าราชการ เข้ามาวิ่งเต้นชักเปอร์เซ็นต์งบฟื้นฟูของรัฐบาล ตามมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะงบของกระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ทั้งอบต. อบจ. เทศบาล ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย หรือส่วนราชการใดๆ แต่เป็นกระบวนการเหลือบหากิน
"ขอเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ถ้าพบคนแอบอ้างลักษณะนี้ให้ร้องเรียนมาที่พรรคเพื่อไทย และรัฐบาลทันที เราจะดำเนินการจัดการให้เป็นกรณีตัวอย่าง" โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว