นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย(พท.)เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมของรัฐสภาในวันที่ 23 ก.พ.นี้
"ได้ตรวจสอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยเสร็จแล้ว จำเป็นต้องบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมของรัฐสภาภายใน 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด" นายสมศักดิ์ กล่าว
ที่ประชุมสภาฯ จะพิจารณา มาตรา 291 จากนั้นจะใช้เวลา 2-3 เดือนเลือกตั้ง ส.ส.ร.เพื่อไปยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยใช้เวลาอีกประมาณ 6 เดือน ซึ่งในช่วงนั้น ส.ส.ร.น่าจะเชิญประชาชนที่เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่างๆ เข้ามาเพื่อรับฟังความคิดเห็นได้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่น่าจะเป็นชนวนความขัดแย้งในสังคม เพราะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เป็นการมอบอำนาจของ ส.ส.และ ส.ว.ไปให้ประชาชน โดยการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน เท่ากับว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นการร่างโดยประชาชน
ส่วนกรณีที่ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้านนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองยังมองไม่เห็นว่าการแก้ไขจะมีผลทางคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร ถือเป็นคนละประเด็น ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ และผลการร่างรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับประชาชน และสุดท้ายก็ต้องไปถามประชามติจากประชาชน ตนเองเป็นเพียงแค่บุรุษไปรษณีย์ หากประชาชนเห็นชอบก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ ก็เท่านั้นเอง
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตยนั้น หากไม่ยึดถือระบบเลือกตั้งแล้วจะให้ยึดถือระบบอะไร เมื่อประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้เลือกตั้ง ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญ และสังคมก็หมายถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศ ถ้าไม่ยึดถือประชาชนส่วนใหญ่จะให้ยึดถืออะไร ดังนั้นตนเองเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่ร่างโดยประชาชนนั้นจะเป็นประชาธิปไตย และเชื่อมั่นว่าจะดีกว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 และที่มีการเกรงว่ารัฐธรรมนูญที่ออกมานั้นจะเป็นไปตามพิมพ์เขียวของพรรคเพื่อไทยนั้น ตนเองไม่เคยเห็นพิมพ์เขียว และไม่ทราบว่ามีการกำหนดอะไรในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนจะแล้วเสร็จเมื่อใดขึ้นอยู่กับสมาชิก และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาตามมา เพราะการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) มาจากตัวแทนของประชาชน