ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะเรียกประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ เวลา 10.30 น. ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละหน่วยข่าวถือว่ามีความสามารถ แต่ยังขาดการบูรณาการและไม่ได้แลกเปลี่ยนการข่าวกัน โดยขณะนี้ตนกำลังเขียนแผนงานซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง สมช., ตำรวจสันติบาล, ข่าวของกองทัพทุกเหล่า และกองบัญชาการนครบาล
ส่วนการที่คณะรัฐมนตรีตั้งทีมบูรณาการงานข่าวด้านความมั่นคงขึ้นเป็นเพราะชาวต่างชาติไม่มั่นใจการข่าวของไทยหรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แนวทางในขณะนี้ได้เน้นพื้นที่ไหนที่มีชาวตะวันออกกลาง หรือชาวอิหร่านไปพักอาศัย ซึ่งได้ขอให้เจ้าของผู้ให้เช่าที่พักให้ความร่วมมือกับตำรวจในการรวบรวมข้อมูลของคนต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัย
อนึ่ง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.อุดรธานี ได้แต่งตั้งทีมบูรณาการด้านการข่าวเพื่อดูแลงานข่าวด้านความมั่นคง โดยมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทีม
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 27 ก.พ. จะเดินทางไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เพื่อให้แนวทางว่าอย่าเพียงเฝ้าระวังเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น แต่ต้องเพิ่มการตรวจตราในพื้นที่สนามบินภูเก็ต หรือตามแนวชายแดนต่างๆ ด้วย และจะนำตำรวจตระเวนชายแดนมาช่วยดูแลการตรวจคนเข้าเมืองด้วย เพราะบางครั้งกลุ่มคนเหล่านี้มักจะลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน ซึ่งยากต่อการตรวจตราและอาจมีปัญหาภายหลังได้
สำหรับการประสานขอตัวนายมาซูด ซาเดกัต ซาเดห์ ผู้ก่อการร้ายที่หลบหนีเข้าประเทศมาเลเซียนั้น มั่นใจว่า จะไม่มีปัญหา แต่ไม่สามารถไปคาดคั้นได้ เนื่องจากไทยและมาเลเซียไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนโดยตรง แต่มาเลเซียเคยอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอังกฤษ ซึ่งไทยได้เคยทำสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับอังกฤษก็จะใช้ช่องทางดังกล่าว ทั้งนี้ได้กำชับกับตำรวจว่าไม่ให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ เนื่องจากอาจจะกลายเป็นคู่ขัดแย้งได้
ส่วนการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ได้เตรียมร่างกฎหมายดังกล่าวไว้แล้ว 6 มาตรา แต่ขณะนี้ขอพิจารณาสถานการณ์ทางการเมืองให้นิ่งเสียก่อน และให้ร่างแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญผ่านสภาฯ ไปก่อน ซึ่งถ้าประชาชนมีความสุขจากการบริหารงานของรัฐบาล การแก้ไขปัญหายาเสพติดทำได้ดี รวมถึงเรื่องการข่าวที่ทำให้บ้านเมืองน่าเชื่อถือ ก็จะเดินหน้าเรื่องพ.ร.บ.ปรองดองฯ และยืนยันว่าทุกฝ่ายจะได้รับประโยชน์ที่เท่าเทียมกันจากกฎหมายฉบับนี้
นอกจากนี้ ที่เคยหาเสียงไว้ว่าจะพา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทยนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ แต่คงอีกไม่นาน ส่วนจะทำได้มากน้อยเพียงใดขอให้รอดู เพราะหากไม่ทำตามที่พูดไว้ก็จะทำให้ประชาชนที่เลือกมาจะไม่พอใจ