สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์คัดค้านกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอแนวคิดให้ยุบองค์กรอิสระในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 เนื่องจากเห็นว่าเป็นแนวคิดที่ล้าหลังและมีเป้าหมายเพื่อทำลายกระบวนการยุติธรรม
"กรณีมีนักการเมืองบางคนเสนอการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ยุบศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญไว้เป็นแผนกหนึ่งในศาลฎีกานั้น สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนในฐานะองค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนที่ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานภาครัฐและนักการเมืองชั่ว ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และขอต่อต้านจนถึงที่สุด เพราะถือเป็นแนวคิดล้าหลังถอยหลังเข้าคลอง และน่าจะมีเป้าหมายทำลายกระบวนการยุติธรรมหรือระบบนิติรัฐที่ตนไม่สามารถครอบงำได้ เพื่อเสริมพวกชอบใช้เผด็จการทางอำนาจของนักการเมืองและฝ่ายปกครองที่ถือเสียงข้างมากหรือพวกมากลากไป ที่ชอบใช้อำนาจเหนือประชาชน ทั้ง ๆ ที่ควรเป็นผู้รับใช้ประชาชน" แถลงการณ์ฯ ระบุ
เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยเป็นระบบศาลคู่ คือ ศาลยุติธรรม(ศาลแพ่ง ศาลอาญา ฯลฯ) และศาลปกครอง ซี่งมีกระบวนวิธีพิจารณาคดีแตกต่างกัน เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างเป็นธรรมที่แตกต่างกัน โดยที่ศาลยุติธรรมใช้ "ระบบกล่าวหา" นั่นคือ ผู้ใดกล่าวอ้างผู้นั้นต้องนำสืบ โดยมีทนายความหรืออัยการเป็นผู้รับมอบอำนาจในการดำเนินคดีทางศาลให้กับคู่ความ ส่วนศาลปกครองเป็น "ระบบไต่สวน" ซึ่งศาลสามารถแสวงหาข้อเท็จจริงได้ด้วยวิธีของศาลเอง เพราะตุลาการจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่กว้างขวาง ช่วยลดภาระและความแตกต่างเชิงอำนาจระหว่างประชาชนผู้ถูกกระทำกับหน่วยงานของรัฐ ที่มีทั้งอำนาจ ข้อมูล บุคลากรและงบประมาณ ที่อยู่เหนือประชาชนทุกช่องทางได้
ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญ คือ องค์กรสูงสุดในการพิจารณาวินิจฉัยข้อพิพาทหรือความชอบของบทบัญญัติทางรัฐธรรมนูญที่ต้องอยู่เหนือการครอบงำของนักการเมือง มิใช่ปล่อยให้นักการเมืองเข้ามาเป็นตุลาการเหมือนในอดีต เพราะคำวินิจฉัยจะต้องผู้พันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ เพราะถือเป็นกฎหมายแม่บทสูงสุดของประเทศ
"นักการเมืองที่เสนอยุบศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญจึงน่าจะมิใช่นักการเมืองตามความหมายในทางรัฐศาสตร์ หรือนักการเมืองในอุตมรัฐของสังคม แต่น่าที่จะเป็นนักกินเมืองที่ชอบที่จะหาหนทางที่จะไซฟ่อนหรือบ่อนทำลายกระบวนการยุติธรรมให้อ่อนแอ เพราะตนและพวกไม่สามารถครอบงำได้ เพื่อที่ตนและพวกพ้องจะได้ใช้โอกาสนี้ในการเข้าไปแทรกแซง ครอบงำระบบของสังคม เพื่อหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ หรือคอรัปชั่นทางอำนาจ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนและพวกพ้อง ผ่านโครงการหรือกิจกรรมการพัฒนาต่างๆ บนคราบน้ำตาประชาชน โดยการถลุงเงินงบประมาณที่มาจากเงินภาษีของประชาชนโดยมิต้องมีผู้ใดหรือองค์กรใดมาขัดขวาง โดยเฉพาะกับเงินใต้โต๊ะหรือเงินทอน 20-30%" แถลงการณ์ฯ ระบุ
ทั้งนี้ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนขอคัดค้านและต่อต้านแนวคิดการยุบศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระอื่นๆ โดยชัดแจ้ง และขอเชิญชวนให้ประชาชนทั่วประเทศออกมาแสดงพลังขับไสไล่ส่งนักการเมืองและพรรคการเมืองที่เสนอแนวคิดดังกล่าว ให้สิ้นไปจากสังคมไทย โดยไม่เลือกบุคคลและพรรคการเมืองที่มีแนวคิดหรือสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นนักการเมืองที่มุ่งทำลายหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อสิทธิเสรีภาพทางศาลและองค์กรอิสระที่เป็นระบบคุ้มครองสิทธิของประชาชน