รายงานข่าวจากรัฐสภา แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญนัดแรกได้ลงมติเลือกนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ., นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม เป็นรองประธาน กมธ.คนที่ 1, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรองประธาน กมธ.คนที่ 2, นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานคนที่ 3 และนายเรืองศักดิ์ งามสมภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เป็นรองประธานคนที่ 4 โดยมีนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นเลขานุการ ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ ประกอบด้วย นายชูชัย เลิศพงศ์อดิสร ส.ส.เชียงใหม่, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ และนายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และโฆษก กมธ. 4 คน ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย, นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร, นายธนา ชีรวินิช ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และนายประเมศวร์ งามเชษฐ์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังชล
ส่วนที่ปรึกษา กมธ.นั้น ที่ประชุมฯ ได้แบ่งโควต้าให้พรรคละ 1 คน และวุฒิสภา 1 คน รวมทั้งให้ประธานสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญในปี 40 และ 50 มาร่วมเป็น กมธ.ด้วย พร้อมทั้งมีแนวทางให้ตัวแทนภาคประชาชนที่เคยยื่นร่างรัฐธรรมนูญเข้ามาร่วมด้วย
สำหับบรรยากาศการประชุมในวันแรกเป็นไปด้วยความราบรื่นแม้ตัวแทนแต่ละฝ่ายจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ประเด็นเรื่องสัดส่วนในแต่ละตำแหน่ง โดย กมธ.ในซีกฝ่ายค้านต้องการให้ระบุให้ชัดว่าการร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้จะไม่มีการแตะและเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศ โดยเฉพาะ 3 ประเด็น คือ สถาบันกษัตริย์, ศาลและองค์กรอิสระ และไม่แก้ความผิดเพื่อผู้หนึ่งผู้ใด ขณะที่ กมธ.ในซีกรัฐบาลมองว่า กมธ.มีหน้าที่แก้ไขเฉพาะมาตรา 291 เพื่อเปิดช่องให้เลือก ส.ส.ร.เท่านั้น ไม่ควรที่จะกำหนดรายละเอียดไปมากนั้น เพราะจะเป็นการชี้นำ โดยควรให้ ส.ส.ร.ไปกำหนดกรอบการพิจารณาแก้ไขเอง