นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คเชิญชวนผู้ให้การสนับสนุนมาร่วมประชุม ณ ลุมพีนีสถาน(อาคารลีลาศ) สวนลุมพินี ในวันที่ 10 มี.ค.55 เวลา 10.00 น.
การประชุมดังกล่าวเพื่อกำหนดท่าทีในการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น ยังไม่ใช่เป็นการนัดชุมนุม โดยจะระดมความคิดเห็นจากแกนนำ ผู้ประสานงาน และตัวแทน เพื่อหาข้อสรุปในการเคลื่อนไหวต่อไป
โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า แม้วันที่ 2 มี.ค.55 จะยังไม่ไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อหลากสีของ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แต่คงไม่ใช่เป็นการโดดเดียว เพราะการเคลื่อนไหวทางการเมืองของแต่ละกลุ่มมีสิทธิเสรีภาพ และมีมวลชนของตนเอง
สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ หากดูจากผลการสำรวจของโพลล์สำนักต่างๆ แล้วความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่กว่า 80% ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่กำลังรอดูเนื้อหาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะเป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหน ทำให้ยังไม่เกิดการความเคลื่อนไหวคัดค้านที่ชัดเจน ซึ่งการกำหนดวันเวลาที่จะออกมาเคลื่อนไหวนั้นคงจะต้องรอช่วงเวลา และเนื้อสาระที่จะมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีข้อสรุปข้อหนึ่งให้ ส.ส.พรรค เตรียมสร้างมวลชนไว้เตรียมออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายปานเทพ กล่าวว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตุถึงการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ประกาศไว้เมื่อปลายปี 54 ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเอามวลชนออกมาร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเหมือนที่เคยถูกกระทำเมื่อตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล อะไรที่ดีก็พร้อมจะสนับสนุน ส่วนอะไรที่เป็นปัญหาก็จะตรวจสอบตามกระบวนการของรัฐสภา
"เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุเช่นนี้ หมายความพรรคประชาธิปัตย์กำลังจะเปลี่ยนหลักการของตนเองที่เคยประกาศเอาใช่หรือไม่ หรือว่าสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ประกาศเอาไว้มันล้มเหลวใช้งานไม่ได้ หรือเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีโอกาสเป็นรัฐบาล ดังนั้นในเรื่องนี้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรจะต้องตอบคำถามในเรื่องนี้ของเขาเอง ส่วนภาคประชาชนนั้นผมเห็นว่าคงจะต้องให้สถานการณ์มีความสุกงอมมากกว่า" นายปานเทพ กล่าว
ส่วนปัญหาคดีความของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กำลังถูกดำเนินคดีอยู่จะส่งผลต่อความชอบธรรม และการเคลื่อนไหวต่อสู้หรือไม่นั้น นายปานเทพ กล่าวว่า คงจะไม่มีปัญหา เพราะคดีความต่างๆ ที่นายสนธิกำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในเวลานี้ถือว่าเป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่นายสนธิยังไม่ได้เริ่มการชุมนุมเคลื่อนไหว อีกทั้งนายสนธิเคยบอกว่าชีวิตในอดีตที่ผ่านมาของเขามีทั้งทำความผิดและทำความถูก ซึ่งนายสนธิก็ได้ขอฉันทามติต่อที่ชุมนุมกลางท้องสนามหลวงเพื่อขอโทษ และทำหน้าที่เป็นแกนนำมวลชนในชุมนุมเรียกร้องในเวลานั้นไปแล้ว