“สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน3,339 คน ระหว่างวันที่ 10 -17 มีนาคม 2555 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.36 ไม่ค่อยเชื่อมั่นการเมือง เพราะมีแต่ความขัดแย้ง หวังประโยชน์ โดยความเชื่อมั่นด้านการเมืองพบว่าประชาชนเชื่อในตัวนายกรัฐมนตรี เป็นอันดับ 1 ร้อยละ 59.96 รองลงมาคือการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การลงทุน ร้อยละ 20.78 ส่วนความไม่เชื่อมั่น พบว่าอันดับ 1 คือการสร้างความปรองดองทางการเมือง ร้อยละ 46.68
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ "เศรษฐกิจไทย" พบว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น ร้อยละ 43.01 เพราะ ทุกวันนี้ประชาชนต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น สินค้าอุปโภค บริโภคมีราคาแพง ,การกู้ยืมเงินจากต่างประเทศของรัฐบาล ฯลฯ
โดยเรื่องเศรษฐกิจที่ประชาชนเชื่อมั่น คือการส่งเสริมธุรกิจการค้าและการลงทุน ร้อยละ 53.40 ส่วนเรื่องที่ไม่เชื่อมั่น คือการแก้ปัญหาค่าครองชีพ และราคาสินค้าแพง ร้อยละ 60.35
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “ฝ่ายรัฐบาล" ณ วันนี้ ในภาพรวม ค่อนข้างเชื่อมั่นร้อยละ 32.29 เพราะประชาชนส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจ แถมเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรีร้อยละ 58.29 เรื่องที่ไม่เชื่อมั่นคือการแก้ปัญหาราคาสินค้าแพงร้อยละ 49.30
ขณะที่ ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ “ฝ่ายค้าน" ณ วันนี้ ในภาพรวม ไม่ค่อยเชื่อมั่นร้อยละ 37.28 เพราะการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ ต่างฝ่ายต่างเอาดีใส่ตัวและกล่าวหากันไปมา
ส่วนเรื่องที่ประชาชน “เชื่อมั่น"ฝ่ายค้าน คือ การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ขณะที่ ร้อยละ 53.24 ไม่เชื่อมั่น มองว่าเล่นเกมการเมือง
เรื่องแต่ผลสำรวจระบุว่าประชาชนยังเชื่อมั่น “ฝ่ายรัฐบาล" มากกว่า “ฝ่ายค้าน" เพราะ ชื่นชอบและเชื่อมั่นในตัวนายกฯ มีทีมงานเก่งและมีความรู้ความสามารถ มีนโยบายที่ดีในการช่วยเหลือประชาชน ฯลฯ
ไม่เชื่อมั่นทั้ง 2 ฝ่าย มีจำนวนร้อยละ 31.83 เพราะการเมืองไทยมีแต่ความขัดแย้ง ทะเลาะวิวาท โจมตีกันไปมา แย่งชิงผลประโยชน์ สนใจแต่อำนาจ พวกพ้อง ฯลฯ