นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการจะทำให้รับรู้ปัญหาของแต่ละจังหวัดเพื่อนำไปแก้ไขได้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันด้วย
ในส่วนของจังหวัดกระบี่ ได้คัดเลือกโครงการเร่งด่วนและนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กลั่นกรองโครงการเพื่อนำเสนอ ครม.สัญจร ในระหว่างวันที่ 19-20 มี.ค.55 ให้พิจารณาทั้งหมด 10 โครงการ รวมต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น 3,439 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน และอุบัติภัยทางธรรมชาติ เพื่อรองรับคุณภาพชีวิตที่ดีและการท่องเที่ยว 2.สำรวจและออกแบบ เพื่อก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองกระบี่ 3.จัดตั้งมหาวิทยาลัยของฝั่งทะเลอันดามันในพื้นที่จังหวัดกระบี่ 4.ถนนสาย อ.เขาพนม จ.กระบี่-อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช 5.ก่อสร้างอาคารวินิจฉัยและรักษาพยาบาล เพื่อรองรับคุณภาพชีวิตที่ดีและการท่องเที่ยว
6.ก่อสร้างระบบบำบัดขยะของจังหวัดกระบี่ 7.ก่อสร้างระบบประปาขุมเหมืองหวายเล็ก อ.เหนือคลอง 8.พัฒนาแหล่งน้ำและปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวสวนสาธารณะหาดพระแอะ 9.ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัย และ 10. ปรับปรุงและขยายถนนเส้นทางลัด จ.พังงา จ.กระบี่-จ.นครศรีธรรมราช(บ้านบางทราย อ.อ่าวลึก-บ้านกอตง อ.เขาพนม)
ทั้งนี้เชื่อว่า ในการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้จะทำให้โครงการที่ทางจังหวัดได้นำเสนอได้รับการอนุมัติรวดเร็วขึ้น เนื่องจากลดขั้นตอนและระยะเวลาการนำเสนอของบประมาณ
"จังหวัดกระบี่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม รวมทั้งมีพืชเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประชาชน ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ และยังมีแหล่งพลังงานทดแทนที่สำคัญหลายแห่ง"ผู้ว่าฯจ.กระบี่ กล่าว