นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แนะรัฐบาลควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อ FATF ว่า ไทยได้พยายามผลักดันกฎหมาย 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน คือ ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ปราบปรามการฟอกเงิน, ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการก่อการร้าย และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคู่ค้า เพื่อให้ FATF ปลดล็อคประเทศไทยออกจากบัญชีเฝ้าระวังสูงสุด(Dark Grey list)
ทั้งนี้ รัฐบาลควรผลักดันเรื่องดังกล่าวให้เป็นวาระแห่งชาติ และตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ ภาคเอกชน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สถาบันการเงินและตลาดทุน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นประธาน เพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการออกกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) กล่าวว่า ภายในเดือน ก.พ.56 ไทยจะต้องเร่งออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินทั้ง 3 ฉบับ เพื่อให้ FATF พิจารณาปลดล็อคไทย
โดยขณะนี้ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคู่ค้าผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างส่งกลับให้ ปปง.ยืนยันร่าง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาต่อไป
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการก่อการร้าย และการเสนอปรับปรุงโครงสร้างและเพิ่มอัตรากำลังของ ปปง.จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ปปง.ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ หลังจากนั้นจึงจะเสนอที่ประชุม ครม.และเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาต่อไป