นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง สนับสนุนแนวทางการสร้างความปรองดองของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่ดำเนินการร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า โดยเห็นว่าเป็นแนวทางที่สังคมควรให้การสนับสนุน
"ถ้าวันนี้ พล.อ.สนธิ เสนอแนวทางการปฏิวัติอีกครั้ง ผมก็จะออกมาสู้กับท่านเอง แต่วันนี้ พล.อ.สนธิ เสนอแนวทางต้องปรองดอง ผมปฏิเสธสิ่งที่ท่านเสนอไม่ได้ สิ่งที่พล.อ.สนธิ ทำในวันที่ 19 ก.ย.49 ตลอดชาติผมก็ไม่ยอมรับ แต่วันนี้ท่านออกมาบอกว่าให้ร่วมกันสร้างความปรองดอง สังคมก็ควรให้การสนับสนุน" นายณัฐวุฒิ กล่าว
อย่างไรก็ดี วันนี้ยังไม่ทราบว่ามีความพยายามที่จะให้สถาบันพระปกเกล้าถอนรายงานแนวทางการสร้างความปรองดองออกจากการวาระการพิจารณาของสภาฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 เม.ย.นี้ โดยมองว่าขณะนี้ไม่ควรจะมีใครถอนอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะทั้งกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวออกจากการเป็นกรรมาธิการร่วม หรือการถอนแนวทางสร้างความปรองดองของสถาบันพระปกเกล้าออกจากการพิจารณาของสภาฯ
"วันนี้ต้องช่วยกันประคับประคอง สามารถแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีกว่า ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ตัดเชือก เวทีปรองดองก็จะไม่เหลือพื้นที่" นายณัฐวุฒิ กล่าว พร้อมขอให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาร่วมกันสร้างความปรองดองในสภาฯ เพราะเชื่อว่าจะเป็นเวทีที่สามารถหาทางออกได้
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่ากรณีที่มาของการปฏิวัติตามที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ตั้งคำถามไว้นั้น ถือว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือการปรับปรุงโครงสร้างของสังคมไทยใหม่ เพื่อให้ความแตกต่างระหว่างชนชั้นอยู่ร่วมกันได้น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า
ส่วนแนวทางปรองดองของ พล.ต.สนั่น ที่เสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปหารือกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แนวทางนี้ไม่เคยมีขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่มีความขัดแย้งทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยสร้างบรรยากาศปรองดองได้ แต่สิ่งสำคัญคือควรให้ทุกฝ่ายเห็นภาพตรงกันว่าวันนี้ไม่มีทางอื่นที่จะเดินไปได้ นอกจากแนวทางการสร้างความปรองดองเท่านั้น
ส่วนความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ในช่วงนี้มักมีข่าวออกมาเป็นระยะนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้ามองว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลธรรมดาแล้ว การจะเดินทางไปที่ใดก็ตามก็จะถือเป็นเรื่องปกติ แต่ขณะนี้มีความพยายามของบางฝ่ายที่ต้องการตีความทุกฝีก้าวของพ.ต.ท.ทักษิณ ให้เป็นประเด็นการเมือง และต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ช่องทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารมีมาก
นายณัฐวุฒิ ยังติงแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังมีความพยายามแสดงท่าทีในการจองเวร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเรียกร้องให้ช่วยลดเงื่อนไขในการยึดติดกับเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเห็นว่าวันนี้ไม่ควรจะมีใครมาทำวิกฤติเพื่อฉวยให้เป็นโอกาสของตัวเอง และวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายควรถอยคนละก้าว และหันหน้ามาพูดคุยกันเพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น