นายกรัฐมนตรี ระบุมีความจำเป็นต้องเดินทางไปเยือนต่างประเทศเพื่อแสวงหาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และเป็นการเตรียมความพร้อมรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 58 ซึ่งภูมิภาคนี้มีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน และเราหวังเป็นศูนย์กลางความร่วมมือดังกล่าว
"ถ้าเราไม่เตรียมไว้วันข้างหน้าในการเริ่มสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศอื่นๆ ก็จะทำให้การค้าขายคงเป็นไปตามปกติ แต่ถ้ามีความสัมพันธ์อันดีจะยกระดับรายได้ของประเทศให้สูงขึ้น" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนทางสถานีโทรทัศน์ NBT เช้านี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ตนเองจะนำคณะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศกัมพูชา และวันที่ 17 เม.ย.จะนำคณะเดินทางไปเยือนประเทศจีน ซึ่งเลื่อนกำหนดมาเนื่องจากเกิดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ และปลายเดือน พ.ค.ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุม World Economic Forum ที่มีผู้นำประเทศและผู้บริหารระดับสูงจากทั่วโลกเดินทางมากว่า 1 พันราย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ในระดับหนึ่ง