นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยได้กำชับให้ส.ส.เข้าร่วมประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 18-19 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม วาระที่ 2 ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว เพราะฝ่ายค้านได้แปรญัตติไว้กว่า 100 คน อาจจะอภิปรายพาดพิงรัฐบาล, พรรคเพื่อไทย หรือบางบุคคลได้
พร้อมกับขอให้สมาชิกพรรคอย่าประท้วงโดยใช้อารมณ์ แต่ให้ใช้เหตุผลในการประท้วง เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการประชุม เพราะในที่สุดประชาชนที่ติดตามการถ่ายทอดสดจะตัดสินเอง
ส่วนกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ระบุว่า 16 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลล้มเหลว ละทิ้งประชาชน ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลดำเนินการคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% ดังนั้นจึงเป็นแค่เกมการเมืองที่ต้องการลดเครดิตรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี
อีกทั้งไม่เป็นความจริงเช่นกันที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าประเทศไทยอยู่ใน 4 สถานะวิบัติ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์วิบัติ, ตรรกะวิบัติ, นิติรัฐวิบัติ และประชาธิปไตยวิบัติ
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอต่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองนั้น นายพร้อมพงศ์ ให้ความเห็นส่วนตัวเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะให้รัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยเสนอกฎหมายดังกล่าว เพราะจะถูกฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามขยายผลนำไปสู่ความขัดแย้ง ทำให้การปรองดองไม่สำเร็จ
"ทางที่ดีภาคประชาชน หรือคนที่เป็นกลางจะนำเสนอกฎหมายต่อสภา เรื่องนี้ต้องออกเป็นพ.ร.บ.อย่างเดียว เป็นความสง่างามมากกว่า และปิดทางฝ่ายค้าน ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยนำไปขยายผล เมื่อเสนอเป็นพ.ร.บ.ก็ต้องเปิดให้มีการอภิปรายอย่างเต็มที่ 5-10 วันให้ตกผลึก พร้อมถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ เพื่อให้ประชาชนได้ติดตาม และทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง" โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
ส่วนที่มองกันว่าวิธีดังกล่าวจะช้าหากไม่เสนอกฎหมายนี้ภายใน 1-2 เดือนนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ช้าหรือเร็วไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่ต้องให้สังคมตกผลึก ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมมากที่สุด ถึงจะช้าแล้วเกิดความปรองดองถือว่าบรรลุเป้าหมาย เชื่อมั่นว่า 6 ปีบนความขัดแย้งประชาชนรู้สึกเบื่อหน่าย ทุกคนอยากให้เกิดความปรองดอง ดังนั้นเรื่องนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ทำให้คนต้านน้อยที่สุด ปรองดองจึงสำเร็จ โดยไม่ได้เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต้องการทำเพื่อคนไทยทุกคน