น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายคารล์ บิลด์ท รมว.ต่างประเทศสวีเดน ได้เข้าเยี่ยมคารวะ โดยได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงแผนปฏิบัติการร่วมไทย-สวีเดน (Thailand-Sweden Joint Plan of Action) ว่าเป็นกรอบความร่วมมือที่สำคัญอย่างมากในการดำเนินความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศและมั่นใจว่า แผนปฏิบัติการร่วมนี้จะนำไปสู่ความร่วมมือที่มากขึ้นระหว่างไทย-สวีเดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการค้าและการลงทุน
ทั้งนี้ รมว.ต่างประเทศสวีเดนกล่าวถึงความคืบหน้าของแผนปฏิบัติการร่วมไทย-สวีเดนว่าดำเนินการใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว และคาดว่าจะสามารถลงนามได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
นอกจากนั้น รมว.ต่างประเทศของสวีเดน ยังกล่าวชื่นชมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยภายหลังปัญหาอุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมาว่ามีการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ขณะที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในปี 55 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตประมาณ 5.5-6.5% โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญของรัฐบาลในการป้องกันปัญหาอุทกภัย คือ การจัดตั้งแผนป้องกันน้ำท่วมที่ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยจะสามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
ในส่วนของแผนการบริหารจัดการน้ำนั้นในขณะนี้ดำเนินการใกล้เสร็จสิ้นแล้ว โดยครอบคลุมถึงการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อป้องกันเขตเศรษฐกิจและเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญ โดยนายกรัฐมนตรีจะเน้นการดำเนินการและบริหารแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command)
นอกจากนี้ ทางรมว.ต่างประเทศสวีเดนได้ยกประเด็นปัญหาเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต และเสรีภาพในการพูด (freedom of speech) ว่าเป็นปัญหาที่สำคัญและควรได้รับการแก้ไขจากนานาประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยที่จะให้มีการหารือเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยประเทศไทยให้ความสำคัญและไม่มองข้ามปัญหานี้ เพราะในอนาคตเมื่อประเทศพัฒนามากขึ้น อินเตอร์เน็ตจะยิ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก