นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า วันที่ 5 มิ.ย.นี้ จะมีการนัดประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติวาระ 3 ของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งตลอด 15 วันในการพิจารณาวาระ 2 ฝ่ายค้านทำหน้าที่เต็มที่ แต่กรรมาธิการเสียงข้างมากไม่ตอบสนองทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านเสนอ ยกเว้นยอมให้ใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ว. และใช้กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
ทั้งนี้ฝ่ายค้านยังมีประเด็นที่เป็นห่วงว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับล็อกสเปค หรือรัฐธรรมนูญฉบับรับใบสั่งใน 5 ประเด็น คือ 1.การสรรหาสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) 22 คน ที่ให้อำนาจประธานรัฐสภาเป็นผู้กำหนดองค์กรที่จะเสนอรายชื่อ 2.ให้อำนาจประธานรัฐสภาวินิจฉัยว่ารัฐธรรมนูญขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ แทนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 3.เมื่อยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ กลับไม่มีการส่งกลับให้รัฐสภาพิจารณาเนื้อหาก่อนทำประชามติ และ 5.ไม่กำหนดข้อห้ามสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญเล่นการเมือง 5 ปี
"ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนติดตาม ตั้งแต่การเลือก ส.ส.ร. ว่าจะมีการบล็อคโหวตหรือไม่ และต้องติดตามเนื้อหาว่าจะเอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดคนหนึ่งหรือไม่" นายจุรินทร์ กล่าว
สำหรับการเตรียมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 56 นั้น ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายในวันที่ 21-23 พ.ค.นี้ จะให้เวลาฝ่ายละ 13 ชั่วโมงไม่รวมเวลาประท้วง ขณะที่ฝ่ายค้านได้แบ่งสัดส่วนให้ทุกพรรคได้อภิปราย โดยพรรคประชาธิปปัตย์มีผู้อภิปรายประมาณ 40 คน จะเน้นประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะปีที่ผ่านมารัฐบาลเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า มีปัญหา ขาดประสิทธิภาพทำให้ประชาชนส่วนรวมเสียประโยชน์ โดยเฉพาะงบประมาณที่ใช้ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท แต่เบิกจ่ายไปเพียง 5.4 หมื่นล้านบาท
ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังระบุว่า ได้มีการจัดสรรงบประมาณในกระทรวงที่พรรคเพื่อไทยดูแลเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เช่น กระทรวงแรงงาน เพิ่มขึ้นถึง 131.9% กระทรวงไอซีที เพิ่มขึ้นถึง 108.6% กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มขึ้น 20.9% และกระทรวงคมนาคม เพิ่มขึ้น 8.1% ส่วนกระทรวงที่อยู่ในการดูแลของพรรคการเมืองอื่นกลับได้รับงบประมาณลดลง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับงบลดลง 10.5% กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลดลง 4.8% ซึ่งสะท้อนว่าเป็นการจัดสรรงบประมาณแบบการเมืองและกินรวบ