คณะทำงานตรวจสอบการทุจริต พรรคเพื่อไทย นำโดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทน และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกฯ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบกรณีที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงนามสัญญาให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสต่อไปอีก 13 ปี มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ระหว่าง บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTSC) กับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
พร้อมเห็นว่าการอนุมัติสัญญาดังกล่าวในขณะเวลาที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ใกล้หมดวาระในอีก 8 เดือน ข้างหน้าเป็นการเร่งรัดและเร่งรีบดำเนินการก่อนที่จะหมดวาระ ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และอาจเข้าข่ายขัด พ.ร.บ.ร่วมทุน และพ.ร.บ.ฮั้วประมูล ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้หวังดิสเครดิตต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะมีขึ้น เนื่องจากช่องทางการตรวจสอบของกรรมาธิการฯ มีตัวแทน ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเข้าร่วม ขณะเดียวกันได้เรียกร้องให้ผู้ว่าฯ กทม.ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วย
ด้านพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้รับเรื่องดังกล่าวจากพรรคเพื่อไทยไว้ตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง แต่จะตรวจสอบเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ซึ่งกรรมาธิการฯ ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วยที่ให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้