นายกรัฐมนตรี แถลงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 56 กำหนดวงเงินไว้ไม่เกิน 2.4 ล้านล้านบาท โดยจัดทำเป็นงบประมาณแบบขาดดุล 3 แสนล้านบาท แต่มีแนวโน้มลดลงเพื่อเข้าสู่งบประมาณสมดุลในอนาคต โดยงบประมาณดังกล่าวมุ่งขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาขยายตัวอย่างต่อเนื่องหลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงปลายปี 54 และวางรากฐานการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว
"ในงบประมาณปี 56 รัฐบาลประมาณการว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิทั้งสิ้น 2,197,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 จากปีก่อน และเมื่อหักการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นแล้งคงเหลือเป็นรายได้สุทธิที่สามารถนำมาจัดสรรเป็นรายจ่ายของรัฐบาลจำนวน 2.1 ล้านล้านบาท...และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณจำนวน 3 แสนล้านบาท" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
การจัดทำงบประมาณดังกล่าวอยู่ภายใต้คาดการณ์เศรษฐกิจของไทยในปี 55 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 5.5-6.5 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับร้อยละ 3.5-4.0 โดยมีปัจจัยด้านอุปสงค์ภายในประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ขณะที่รัฐบาลคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในปี 56 จะขยายตัวที่ระดับร้อยละ 4.0-5.0 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับร้อยละ 3.8
ปัจจัยสำคัญมาจากอุปสงค์ภายในประเทศจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญเช่นเดิม นอกเหนือจากใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐเกี่ยวกับการฟื้นฟูประเทศ การบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ การยกระดับคุณภาพชีวิต และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ
สำหรับวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 56 จำนวน 2.4 ล้านล้านบาท จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ 1,901,911 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 79.2 ของวงเงินงบประมาณ, รายจ่ายลงทุนจำนวน 448,938.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.7 ของวงเงินงบประมาณ และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 49,149.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.1 ของวงเงินงบประมาณ
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณไว้ 8 ยุทธศาสตร์ และ 1 รายการค่าดำเนินการภาครัฐ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างรากฐานการพัฒนาที่สมดุลสู่สังคม ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้จำนวน 491,482 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.5 ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น เพื่อดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนสำคัญ เช่น การสร้างความปรองดองสมานฉันท์และฟื้นฟูประชาธิปไตย, การป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษายาเสพติดล การป้องกันและปราบปรามการทุจริต, การบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ, การแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้, การฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค, การลดภาระค่าครองชีพ ส่งเสริมและรักษาเสถียรภาพราคาพลังงาน, การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน, การส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน, การเสริมสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร ได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 40,152.2 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นคงในอาชีพ รายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร, การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการเกษตร, การเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว, การพัฒนาศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน, การพัฒนาระบบประกันสุขภาพ, การสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาเพื่อการศึกษา, การส่งเสริมการปฏิรูปการเมือง
ยุทธศาสตร์ที่ 2 ความมั่นคงแห่งรัฐ ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้จำนวน 204,537.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.5 ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น, ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้จำนวน 228,395.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.5 ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น, ยุทธศาสตร์ที่ 4 การศึกษา คุณธรรม จริยธรรม คุณภาพชีวิต และความเท่าเทียมกันในสังคม ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้จำนวน 625,443.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 26.1 ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น,
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้จำนวน 57,682.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.4 ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น, ยุทธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้จำนวน 19,636.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.8 ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น, ยุทธศาสตร์ที่ 7 การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้จำนวน 7,982.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.3 ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น, ยุทธศาสตร์ที่ 8 การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้จำนวน 330,686.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.8 ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น
และ 9.รายการค่าดำเนินการภาครัฐ ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้จำนวน 434,154.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.1 ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น เช่น การบริหารเพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 76,700 ล้านบาท, การบริหารบุคลากรภาครัฐ ได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 179,507 ล้านบาท และการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 177,947.8 ล้านบาท
"ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ที่นำเสนอนี้ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาอันแน่วแน่ของรัฐบาลในการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายเป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่สำคัญของชาติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และพัฒนาสังคมไทยให้เข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองและแข่งขันในเวทีโลกได้ รวมทั้งเกิดความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศทุกภาคส่วน บนพื้นฐานของความพอเพียงในระยะยาว ทั้งนี้โดยคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขและประโยชน์ที่จะตกอยู่กับประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศเป็นสำคัญ" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว