นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แฉกระบวนการยุติธรรมถูกนักการเมืองทั้งฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาลคุกคามสารพัดรูปแบบ เนื่องจากกลัวหมดหนทางหากินหากถูกลงโทษถูกตัดสิทธิทางการเมือง
"ผู้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกาถูกคุกคาม บางครั้งไม่ได้คุกคามโดยตรง แต่อาจจะมาในรูปแบบของการเชิญไปกินข้าว หรือไปหาโดยไม่รู้ตัว เพื่อมาขอให้ช่วยนักการเมือง เหมือนกันหมดไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เพราะกลัวถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งถือเป็นการตัดทางการทำมาหากิน" นายวิชา กล่าวในงานเสวนาเรื่อง บทบาทของฝ่ายตุลาการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า คดีนักการเมืองมีความซับซ้อนตั้งแต่เริ่มระบบการสรรหาไต่สวน เนื่องจากมีอำนาจอิทธิพลกดดันคณะกรรมการฯ หากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่เข้าใจก็อาจจะตัดสินคดีไม่ตรงตามเจตนารมณ์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดังนั้นจะแยกกระบวนการส่วนหนึ่งส่วนใดออกจากกันไม่ได้
ทั้งนี้ ในเวทีสัมมนาดังกล่าว นายประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เสนอโครงการวิจัยเรื่อง "บทบาทของฝ่ายตุลาการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีศึกษาเปรียบเทียบกับต่างประเทศ กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" โดยมีข้อเสนอหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการจัดตั้งศาลอุทธรณ์ในแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองขึ้นมา เพื่อให้ผู้ต้องคำพิพากษามิสิทธิอุทธรณ์ โดยลดองค์คณะเหลือเพียง 5 คน จากเดิมที่มีอยู่ 9 คน แต่หากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ให้ผู้ต้องคำพิพากษามีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา แต่เฉพาะข้อขัดแย้งในทางกฎหมายเท่านั้น