นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เพื่อเอาผิดนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(ปคอป.) กรณีที่รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 48 -53 จำนวน 522 รายว่า เป็นความพยายามของพรรค ปชป.ที่จะดิสเครดิตรัฐบาล
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้เดินทางไปสังเกตการณ์การจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งญาติของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นดูมีความสุข แม้ว่าจำนวนเงินนั้นอาจจะไม่ใช่คำตอบในการเยียวยาบาดแผลทางใจ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่าตัวเองได้รับการเยียวยาและการดูแลจากรัฐบาล ซึ่งจะเป็นจุดหนึ่งของการทำให้เกิดความปรองดองในชาติ
“แต่การไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ของนายสาธิตนั้นตนมองว่าเป็นแค่เกมการเมืองที่พยายามจะลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและนายยงยุทธ เพราะการจ่ายเงินเยียวยาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.)ที่ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และการจ่ายเงินเยียวยานั้นก็ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ให้กับคนทุกสีเสื้อโดยคำนึงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการของฝ่ายบริหารรวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่าการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองไม่ถูกหลักข้อกฎหมายว่า การจ่ายเงินเยียวยาได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้ปฏิบัติตามขั้นตอน และผ่านการตรวจสอบและตั้งกรรมการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว ใช้ระเบียบเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ต่างเพียงแต่จำนวนเงินที่อนุมัติเท่านั้น
ส่วนการฝ่ายค้านเตรียมยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องตรวจสอบว่ากันไปตามหน้าที่ ซึ่งได้ให้ทีมงานทำตามขั้นตอน
สำหรับกลุ่มที่ยังไม่ได้เงินเยียวยา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าทางรัฐบาลก็จะเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้อย่างเท่าเทียมกันในทุกกลุ่ม รวมไปถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงทางภาคใต้ก็ได้เร่งรัดเช่นเดียวกันโดยมีหลักเกณฑ์เดียวกัน ซึ่งการจ่ายเงินจะไม่เกิดความล่าช้าเพราะเจตนาของรัฐบาลไม่มองผ่านความทุกข์ยากของประชาชน