คณะกรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ เรื่อง การรายงานข่าวสถานการณ์ชุมนุม โดยระบุว่าจากเหตุการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน นับตั้งแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และโดยเฉพาะการเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. .... ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทั้งในและนอกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีแนวโน้มบานปลายเป็นสถานการณ์ยืดเยื้ออันสืบเนื่องมาจากการชุมนุมของประชาชนที่คัดค้านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวกอรปกับบทเรียนที่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วจากสถานการณ์ในอดีต
ด้วยเหตุดังกล่าว คณะกรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีความห่วงใยการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดหรือยุยงส่งเสริมให้เกิดความแตกแยกอันเนื่องมาจากการรายงานข่าวเชิงแข่งขัน การใช้ความรู้สึกนึกคิดส่วนตัว โดยเฉพาะการใช้สื่อสังคมออนไลน์ อาทิ ตั้งคำถามทำนองการชุมนุมเป็นการสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และไม่ตรวจสอบข่าวที่อ่อนไหวต่อสังคม
ดังนั้น จึงขอให้สมาชิกระลึกถึงหน้าที่ของตนตามข้อบังคับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ข้อ 7 ที่ให้ปฏิบัติตามหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพฯ และระมัดระวังการรายงานข่าวในสถานการณ์อ่อนไหว ดังนี้ 1. กรณีข่าวสารที่ล่อแหลมต่อความรู้สึกนึกคิดของประชาชน สมาชิกพึงใช้วิจารณญาณเป็นพิเศษในการนำเสนอ และยึดหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนนำเสนอ
2.คำนึงถึงอยู่เสมอว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นย่อมสะท้อนฝักฝ่าย พึงหลีกเลี่ยงการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะยั่วยุให้เกิดความรุนแรงและต้องไม่เป็นการสร้างความเกลียดชังระหว่างคนในสังคม 3.สมาชิกพึงระมัดระวังการตกเป็นเครื่องมือในการรายงานข่าวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอันจะนำไปสู่ความเข้าใจผิดของประชาชน และส่งผลให้สถานการณ์บานปลาย
4. การรายงานข่าวที่บริบทมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ โดยเฉพาะเป็นการรายงานบนสื่อสังคมออนไลน์ ควรระบุวัน เวลา และสถานที่ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดจากประชาชนผู้รับสารอันเนื่องมาจากเวลา สถานที่ และเหตุการณ์ต่างกัน 5. การนำเสนอข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะบนสื่อสังคมออนไลน์ พึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าข้อมูลใดเป็นข่าว และข้อมูลใดเป็นความเห็นและเมื่อเกิดข้อผิดพลาดใดใดอันเนื่องมาจากการนำเสนอ พึงแก้ไขและนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องทันที