นายกฯ หนุนปราบทุจริตเป็นวาระเร่งด่วนชาติ นำร่องพัฒนาระบบราชการไทยก่อน

ข่าวการเมือง Wednesday June 6, 2012 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "บทบาทภาครัฐต่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต" โดยระบุว่า การปราบปรามการทุจริตเป็นวาระของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงได้บรรจุการปราบปรามคอรัปชั่นให้เป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการและเชื่อว่าวงจรการทุจริตจะไม่กลับมาอีก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ทั้งนี้เพื่อไม่ให้การคอรัปชั่นกลับเข้าสู่ประเทศไทย หลายภาคส่วนจึงต้องให้การสนับสนุนในการปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้กับทุกคนในองค์กร นอกจากนี้รัฐบาลได้น้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เรียกว่า "ต้องระเบิดจากข้างใน"มาใช้ โดยต้องเริ่มจากภายในองค์กรก่อน เพื่อพัฒนาระบบราชการให้โปร่งใสอย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลได้มีการจัดทำ 1 โครงการ 1 ข้อเสนอจากข้างในองค์กรในการปรับระบบลดการทุจริต รวมถึงการยกย่องบุคคลที่ทำงานดีเด่นเพื่อนให้สังคมได้รับรู้ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานของคนดีต่อไป

ขณะเดียวกัน จะต้องขจัดวัฒนธรรมการซื้อขายตำแหน่งและต้องมีการออกกฎหมายเพื่อป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น แต่กฎหมายดังกล่าวจะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจและเอกชน รวมทั้งไม่ให้เกิดความล่าช้าในขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาครัฐได้ใช้ยุทธศาสตร์และกลไกลขับเคลื่อน 4 แนวทาง คือ 1.การปลูกจิตสำนึกค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม และสร้างวินัยให้แก่ทุกภาคส่วน โดยประสานความในระดับนโยบาย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม 2.การรวมพลังแผ่นดินป้องกันและปราบปรามทุจริตให้มีการกระจายอำนาจจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่น ปรับปรุงกฏหมาย และกลไกการบริหารจัดการ 3.เสริมสร้างความแข็งแกร่งในหน่วยงานต่อต้านการทุจริต สร้างจรรยาบรรณในการปฏิบัติงาน และ 4.สร้างบุคลากรมืออาชีพในการปราบปรามทุจริต โดยมีระยะเวลาในการติดตามและประเมินผลงาน

"กลไก 4 แนวทางนี้ จะทำให้การต่อต้านการทุจริตจะเกิดความเด่นชัด มีประสิทธิภาพมากที่สุด และจะยกระดับดัชนีความโปร่งใสของประเทศให้สูงขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนาผลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

อนึ่ง งานสัมมนาดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จของการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 4 ยุทธศาสตร์ ระยะที่ 1 ในปี พ.ศ. 2551-2555 รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรต่างๆ และสังคมไทยมีส่วนร่วมในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การต่อต้านการทุจริตให้มีประสิทธิภาพ และจะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ