(เพิ่มเติม) พันธมิตรฯ ย้ำจุดยืนชุมนุมภายใต้ 3 เงื่อนไข/แกนนำถกท่าทีค้านพ.ร.บ.ปรองดองฯ

ข่าวการเมือง Wednesday June 6, 2012 14:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เปิดเผยว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะชุมนุมเคลื่อนไหวใน 3 กรณี คือ หากมีการตรากฎหมายเพื่อลดอำนาจของพระมหากษัตริย์ หรือการตรากฎหมายเพื่อลบล้างความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือเพื่อปฏิรูปประเทศตามที่ได้ประกาศไว้

"ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการ เกิดขึ้นเมื่อใดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพร้อมจัดให้มีการชุมนุมใหญ่โดยทันที" นายปานเทพ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้แกนนำจะมีการประชุมเพื่อหารือท่าทีเกี่ยวกับการคัดค้าน พ.ร.บ.ปรองดองฯ อีกครั้ง หาก พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ เข้าสู่วาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อใด กลุ่มพันธมิตรฯ ขอยืนยันว่าจะเคลื่อนไหวคัดค้านอย่างถึงที่สุด และพร้อมจะยกระดับการชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลรับผิดชอบโดยทันที

ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ มองว่า เป็นการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย จึงไม่ประกาศนัดหมายชุมนุมในเงื่อนไขนี้ แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 จะน่าเชื่อได้ว่าสุดท้ายแล้วจะนำไปสู่การลบล้างความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณและพวก แต่ก็ยังอยู่ในระดับการคาดการณ์ วิเคราะห์ และประเมินเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น จึงยังไม่สุกงอมเพียงพอที่จะเข้าเงื่อนไขการชุมนุมเคลื่อนไหวมวลชน และเมื่อวันที่ 26 เม.ย.55 กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ยื่นหนังสือถึงองค์กรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย 3 แห่ง ได้แก่ ยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดเพื่อส่งให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งให้นักการเมืองเลิกการกระทำดังกล่าว ยุบพรรค และเพิกถอน สิทธิการเลือกตั้ง, ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อดำเนินการให้ยุบพรรคการเมือง และยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนักการเมือง 416 คน หากมีความผิดจริงจะมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต

ต่อมาวันที่ 1 มิ.ย.55 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้อาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 68 มีคำวินิจฉัยสั่งให้นักการเมืองในรัฐสภาชะลอการลงมติฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 ในวาระที่ 3 และรับคำร้อง 5 กรณี จึงถือได้ว่าขบวนการพิจารณาในคดีนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ดังนั้นเราขอแสดงความเคารพและสนับสนุนขบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

"กรณีลงมติล้มล้างรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 เป็นเรื่องที่ยังอยู่ในอำนาจการพิจาณาของศาลรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายต้องให้การเคารพและรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เว้นเสียแต่ว่าเนื้อหาของรัฐธรรมนูญได้ปรากฏอย่างชัดเจนต่อมาว่าจะมีการลบล้างความผิดให้กับนักโทษชายทักษิณและพวก หรือมีเนื้อหาที่มีการลดพระราชอำนาจหรือลดโครงสร้างของสถาบันพระมหากษัตริย์ หากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็จะเคลื่อนไหวชุมนุมโดยทันที และการพิจารณาใดๆ ของรัฐสภาในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งถือเป็นความเสี่ยงที่สมาชิกรัฐสภาจะพิจารณาและรับความเสี่ยงตลอดจนเผชิญหน้าผลทางกฎหมายเอาเอง ดังนั้นหากสมาชิกรัฐสภายังดึงดันที่จะลงมติฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 ในวาระที่ 3 ต่อไป ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญในการดำเนินการมาตรการต่อไป" นายปานเทพ กล่าว

สำหรับกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือคนเสื้อแดง จะเดินทางมาปิดล้อมสภานั้น นายปานเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี เพื่อจะได้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าใช้มาตรฐานเดียวกับที่ปฏิบัติต่อกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ