การประชุมร่วมรัฐสภาได้ใช้เวลาเกือบตลอดทั้งวัน ในการพิจารณาคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ขณะที่สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายอย่างกว้างขวางซึ่งการประชุมได้เริ่มตั้งแต่เวลา 10.20 น. โดยที่ประชุมใช้เวลาเกือบตลอดทั้งวันและแม้ว่าการอภิปรายจะแล้วเสร็จเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. แต่ยังมีข้อท้วงติงของวิปฝ่ายค้านที่เห็นว่าควรปิดการหารือ และไม่ควรลงมติใดๆ เพราะถือเป็นเรื่องแจ้งให้ทราบเท่านั้น รวมไปถึงกรณีที่จะมีการขอมติจากที่ประชุมรัฐสภาว่าจะรับฟังคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะรัฐสภามีหน้าที่ปฎิบัติตามคำสั่งศาล
ซึ่งทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนคัดค้าน โดยเห็นว่าควรขอมติจากที่ประชุมให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรกับคำสั่งศาล เพราะทำให้เกิดผลกระทบรัฐสภา ในฐานะที่เป็นองค์กรจึงต้องมีความชัดเจน แต่กรณีนี้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาไม่สามารถวินิจฉัยได้ จึงให้วิปทั้ง 2 ฝ่ายไปหารือกันและสั่งให้พักการประชุม 10 นาที
สำหรับภาพรวมการอภิปรายคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญหลังประธานแจ้งต่อที่ประชุมรับทราบ ส่งผลให้มีการอภิปรายอย่างกว้าวขวาง ของสมาชิก ซึ่งมีความเห็นออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลส่วนใหญ อภิปรายเสนอให้เดินหน้าลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 โดยเห็นว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องและสั่งให้รัฐสภาชลอการพิจารณาออกไป เป็นคำสั่งมิชอบและเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต เพราะไม่ได้พิจารณาตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้หากรัฐสภาปฏิบัติตามจะกลายเป็นปัญหาในอนาคต เพราะทั้งหมดต้องยึดตามหลักของระบอบประชาธิไตย
ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว.บางส่วน ยืนยันว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาถูกต้องแล้ว ซึ่งต่างจากกรณีของอัยการสูงสุดที่พิจารณาเพียงแค่คำร้องและไม่ได้ศึกษาหรือรวบรวมข้อเท็จจริงใด แต่กลับเร่งพิจารณาตัดสิน
นอกจากนี้ยังไม่เห็นด้วยที่ประธานรัฐสภาเปิดให้มีการอภิปรายในเรื่องนี้ เพราะจะทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างศาลธรรมนูญกับรัฐสภา รวมทั้งเรียกร้องให้ประธานรัฐสภาระบุให้ชัดเจนว่าจะรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนลงมติในวาระ 3 หรือไม่