นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ มีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชน กรณีเสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบจากเดิม 1 แสนบาทเพิ่มเป็น 5 แสนบาท และกรณีทุพพลภาพจากเดิม 8 หมื่นบาทเพิ่มเป็น 5 แสนบาท โดยให้มีผลหลังคณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบ และย้อนหลังครอบคลุมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.47 ซึ่งการจ่ายเงินเยียวยาย้อนหลังจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 4 ปีงบประมาณ คือ ปีงบประมาณ 2555-2558 เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณในปีหนึ่งปีใดมาจนเกินไป
สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วันที่ 28 เม.ย.47 กรณีมัสยิดกรือเซะ ที่ประชุมฯ เห็นว่า สมควรจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ทายาทของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายโดยอาศัยหลักมนุษยธรรมเป็นหลัก คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐตามเกณฑ์ขั้นต้นจำนวน 5 แสนบาท และเงินเพิ่มพิเศษเพื่อช่วยเหลือตามระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555 อีก 3.5 ล้านบาท รวมเป็น 4 ล้านบาท
กรณีสะบ้าย้อย ที่ประชุมฯ เห็นว่า สมควรจ่ายเงินช่วยเหลือตามเกณฑ์ข้างต้น 5 แสนบาท และเงินเพิ่มพิเศษเพื่อช่วยเหลือตามระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555 อีก 7 ล้านบาท รวมเป็น 7.5 ล้านบาท
ขณะที่เงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กรณีตากใบ 25 ต.ค.47 ที่ประชุมฯ เห็นว่า สมควรจ่ายเงินตามเกณฑ์ข้างต้น 5 แสนบาท และเงินเพิ่มพิเศษเพื่อช่วยเหลือตามระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555 จำนวน 7 ล้านบาท รวมเป็น 7.5 ล้านบาท
นายธงทอง กล่าวว่า กรณีนายสมชาย นีละไพจิตร ซึ่งสูญหายและมีหลักฐานชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องโดยตรงในเหตุการณ์และมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชุมฯ เห็นสมควรให้จ่าย 7.5 ล้านบาท โดยไม่ตัดสิทธิทายาทที่จะใช้สิทธิตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ส่วนกรณีผู้ถูกบังคับให้สูญหาย โดยมีข้อมูลน่าเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ที่ประชุมฯ เห็นสมควรจ่าย 7.5 ล้านบาท และกรณีสูญหายซึ่งมีข้อมูลชั้นต้นว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องให้จ่ายเงินเยียวยา 4 ล้านบาท
นายธงทอง กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาตามมตินี้ มิได้หมายความว่าจะไม่ได้รับการเยียวยา แต่คณะอนุกรรมการชุดต่างๆ กำลังพิจารณาหลักเกณฑ์อยู่
อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้