โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านของประเทศจีน “เป็นสิ่งที่สมเหตุผลและถูกต้องตามกฎหมาย" และไม่ได้เป็นการละเมิดมติการคว่ำบาตรต่ออิหร่านโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติแต่อย่างใด
นายหง เหล่ย โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า “จีนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านบนพื้นฐานของความต้องการที่จะพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีเหตุผลและถูกต้องตามกฎหมาย"
คำแถลงดังกล่าวของนายหง เป็นการตอบคำถามที่ว่า จีนจะทำการลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน เพื่อได้รับการนำชื่อออกจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่หรือไม่
นายหงกล่าวเพิ่มเติมว่า จีนกล่าวย้ำถึงจุดยืนของประเทศเกี่ยวกับประเด็นนี้อยู่เสมอ โดยจีนไม่เห็นด้วยกับประเทศใดก็ตามที่ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่ออีกประเทศหนึ่ง และเห็นว่า “จีนรับไม่ได้โดยเฉพาะกับมาตรการคว่ำบาตรต่อประเทศที่สาม"
นายหงกล่าวต่ออีกว่า “การนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านของจีนไม่ได้เป็นการละเลยผลประโยชน์ของบุคคลที่สาม และไม่ได้เป็นการละเมิดมติมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติใดๆทั้งสิ้น"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐประกาศเพิ่มรายชื่อ 7 ประเทศออกจากมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน ภายใต้กฎหมายความมั่นคงภายในประเทศของสหรัฐ พ.ศ.2555 (National Defense Authorization Act for 2012)
นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า ประเทศทั้ง 7 ซึ่งประกอบด้วย อินเดีย มาเลย์เซีย เกาหลีใต้ แอฟริกาใต้ ศรีลังกา ตุรกีและใต้หวัน ลดจำนวนการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านลงเป็นจำนวนมาก
มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน ซึ่งสหรัฐประกาศใช้จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ด้วยการตัดแหล่งเงินทุนจากการค้าน้ำมันของอิหร่าน
ทั้งนี้ ประเทศจีนไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศที่ได้รับการคัดชื่อออกจากมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน สำนักข่าวซินหัวรายงาน