"อิหร่านไม่สนใจทำสงครามกับประเทศอื่นๆ แต่เราจะเผชิญหน้าอย่างแข็งกร้าวกับการรุกรานที่อาจเกิดขึ้นจากฝั่งศัตรู และตอบโต้กลับไปจนทำให้พวกเขารู้สึกเสียใจที่รุกราน" นายฮาจิซาเดห์ กล่าวในการประชุมร่วมกับทูตทางทหารต่างประเทศในกรุงเตหะราน
นายฮาจิซาเดห์กล่าวว่า ภัยคุกคาม การคว่ำบาตร และแรงกดดัน ถือเป็นสร้างสถานการณ์ของฝั่งตะวันตกเพื่อต่อต้านอิหร่านในช่วง 33 ปีที่ผ่านมา และแรงกดดันและการคุกคามเช่นนั้นก่อให้เกิดผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามเสมอ และทำให้อิหร่านยกระดับการเตรียมความพร้อมและศักยภาพ
รายงานระบุว่า ฐานอำนาจข้ามภูมิภาคในกลุ่มประเทศพื้นบ้านของอิหร่านเคยถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อประเทศ แต่ขณะนี้ประเทศเหล่านั้นจัดว่าเป็นโอกาส
นายฮาจิซาเดห์กล่าวย้ำว่า แผนการทั้งหมดของชาติตะวันตกเพื่อคุกคามชาวอิหร่านนั้นจะล้มเหลวอย่างแน่นอน และอิหร่านมีความสามารถในการพลิกผันภัยคุกคามให้เป็นโอกาสได้
ด้านสำนักข่าว Fars รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า รองเสนาธิการของกองกำลังอิหร่านออกมาเตือนอิสราเอลไม่ให้รุกรานทางทหารต่ออิหร่าน
สำหรับการหารือด้านนิวเคลียร์เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงมอสโกของรัสเซียระหว่างประเทศอิหร่านและกลุ่ม P5+1 ประกอบด้วยสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน บวกกับเยอรมนีนั้น เสร็จสิ้นไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโดยไม่ได้ข้อสรุป
อิหร่านกำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากชาติตะวันตกที่ต้องการให้อิหร่านล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งทางอิหร่านยืนกรานว่าโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในทางสันติและใช้ในทางพลเรือน
กลุ่มชาติตะวันตก ซึ่งรวมถึงสหรัฐและอิสราเอล ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอ้างว่าอิหร่านกำลังผลักดันโครงการนิวเคลียร์เพื่อพัฒนาอาวุธ โดยสหรัฐและอิสราเอลไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน สำนักข่าวซินหัวรายงาน