นายกรัฐมนตรี ระบุการเดินทางไปประเทศกัมพูชาในวันที่ 13 ก.ค.นี้เป็นไปตามคำเชิญของนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ เพื่อไปพูดให้นักธุรกิจสหรัฐฯ ฟัง ส่วนการหารือระดับทวิภาคีกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นเรื่องตามปกติ ไม่ได้มีแผนจะไปหารือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลตามที่มีรายงานข่าว โดยยืนยันจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศอย่างเต็มที่
"การหารือกับผู้นำกัมพูชาเป็นการทำงานตามปกติ ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงความร่วมมืออื่นๆ แต่จะไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลแน่นอน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การไปพูดให้นักธุรกิจสหรัฐฯ ฟังนั้น ตนเองจะตอกย้ำจุดยืนเรื่องว่าไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน และไปประกาศถึงความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 58 และการพัฒนาความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในด้านต่างๆ และตอกย้ำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากมีการสอบถามเรื่องความเคลื่อนไหวทางการเมืองก็จะยืนยันเรื่องการสนับสนุนให้มีการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ รวมถึงความพยายามให้เกิดความปรองดองภายในประเทศ
สำหรับการดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศในช่วงดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หากมีการชุมนุมก็เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรง โดยมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ให้ดูแลความปลอดภัยและความสงบในช่วงที่มีการตัดสินคดี และอยากขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวภายใต้กรอบของกฎหมาย และใช้สันติวิธี เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ได้มีปัญหาเรื่องทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องเร่งเดินหน้าแก้ไข