นายกฯ จะใช้โอกาสปาฐกถาประชุมนักธุรกิจสหรัฐหนุนไทยเป็น Hub อาเซียน

ข่าวการเมือง Friday July 13, 2012 11:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเสข วรรณเมธี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับเชิญจากสภาธุรกิจอาเซียนสหรัฐฯ (U.S. — ASEAN Business Council - USABC) และสภาหอการค้าสหรัฐฯ (U.S. Chamber of Commerce — USCC) เข้าร่วมงานเลี้ยงและกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมนักธุรกิจสหรัฐฯ — อาเซียน ในหัวข้อ “Commitment to Connectivity (C2C): The U.S. — ASEAN Business Forum" ณ เมืองเสียมราฐ กัมพูชา ในวันที่ 13 ก.ค.55 ว่า ทาง USABC และ USCC ได้มีหนังสือเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองและกล่าวสุนทรพจน์แก่คณะนักธุรกิจสหรัฐฯ ซึ่งในโอกาสเดียวกันนี้ พล.อ. เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ จะเข้าร่วมในการกล่าวสุนทรพจน์ด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ร่วมกับ USABC และ USCC ได้นำคณะนักธุรกิจและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมกับบุคคลระดับสูงในภาครัฐและภาคธุรกิจของไทยและอาเซียน เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน โดยเฉพาะในด้านความเชื่อมโยง (connectivity) ในภูมิภาคอาเซียน

"การเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองและการกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่นายกรัฐมนตรีจะได้สร้างความเชื่อมั่นแก่รัฐบาลและภาคธุรกิจสหรัฐฯ ซึ่งไทยจะได้ใช้โอกาสนี้ในการเน้นย้ำเกี่ยวกับนโยบายด้านการลงทุนและการพัฒนาด้านการเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ และการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ศักยภาพทางเศรษฐกิจของประชาคมอาเซียน โดยจะได้ชี้ให้ภาคเอกชนสหรัฐฯ เห็นถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและช่องทางความร่วมมือต่าง ๆ ในอาเซียน นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสในการแสดงวิสัยทัศน์และศักยภาพของไทยที่จะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนอีกด้วย"นายเสข กล่าว

นายเสข กล่าวว่า การที่ภาคเอกชนของสหรัฐฯ เชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานเลี้ยงและกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ ให้ความสำคัญ และเล็งเห็นถึงบทบาทของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นศูนย์กลาง (hub) ของภูมิภาคอาเซียน รวมไปถึง การมีความเชื่อมั่นในศักยภาพ และโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

นอกจากนี้ การเดินทางไปเมืองเสียมราฐในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้พบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีเมียนมาร์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ