นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงท่าทีของพรรคภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า คำวินิจฉัยของศาลยังไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะที่ระบุเรื่องการทำประชามติ เพราะการทำประชามติ ไม่มีเขียนไว้ในมาตรา 291 แต่เมื่อยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว จึงจะมีการทำประชามติ ทำให้เกิดความสับสนว่าควรจะทำประชามติหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทยจะยึดแนวทางตามรัฐธรรมนูญมากกว่าความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ และวันจันทร์ที่ 16 ก.ค.จะเรียกประชุม ส.ส. เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว โดยจะพิจารณา 3 แนวทางคือ 1. ควรเดินหน้าลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ต่อหรือไม่ 2. ควรทำประชามติก่อนหรือไม่ และ 3.ให้แก้ไขรายมาตราโดยเฉพาะมาตรา 268 ที่ให้อำนาจประชาชนร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี จะหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ถือเป็นแนวทางของรัฐบาล ที่จะทำควบคู่กับแนวทางของพรรค
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคได้ตรวจสอบพบความผิดปกติในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยก่อนที่ศาลจะวินิจฉัย ดัชนีหุ้นตกลงไป 20-30 จุด แต่พอวินิจฉัยเสร็จ หุ้นกลับมาบวก 12 จุด และในระหว่างนั้นมีนักการเมืองส่งตัวแทนไปช้อนซื้อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และพลังงาน โดยอาศัยประโยชน์จากข้อมูลข่าวสารจึงอยากให้ ก.ล.ต.เข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว