นายอาลี ฟาดาวี ผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองกำลังปกป้องการปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน กล่าวย้ำเมื่อวันเสาร์ว่ากองทัพของอิหร่านได้ควบคุมช่องแคบฮอร์มุซไว้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว
“อิหร่านได้ควบคุมอ่าวเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุซอย่างเต็มรูปแบบ หากสหรัฐและอิสราเอลดำเนินการที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออิหร่าน พวกเขาก็จะต้องได้รับผลอย่างรุนแรง" นายฟาดาวีกล่าวกับสำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่าน
เขากล่าวย้ำว่าอิหร่านสามารถจะปิดช่องแคบฮอร์มุซได้เต็มที่ โดยระบุว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นตราบใดที่ความมั่นคงและผลประโยชน์ของอิหร่านไม่ได้รับผลกระทบ แต่หากสหรัฐต้องการจะสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงของภูมิภาค ทุกฝ่ายก็จะเผชิญกับความเสียหายเช่นเดียวกัน
นายฟาดาวีกล่าวว่าความขัดแย้งใดๆในอ่าวเปอร์เซียจะแสดงถึง “ความโง่เง่า" ของกองกำลังตะวันตก
ทั้งนี้ ความตึงเครียดเกี่ยวกับแผนการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หลังจากการเจรจานิวเคลียร์ 3 รอบที่จัดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ระหว่างอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมเยอรมนี ไม่ได้ก่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม
นับแต่ปลายปีที่แล้ว อิหร่านได้ทดลองยิงขีปนาวุธหลายครั้งในพิสัยที่หลากหลาย และขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางทางทะลที่สำคัญที่สุดสำหรับการขนส่งน้ำมันดิบ หากผลประโยชน์ของอิหร่านได้รับผลกระทบ
เมื่อเร็วๆนี้ ชาติมหาอำนาจตะวันตก ซึ่งวิตกว่าอิหร่านอาจใช้แผนการนิวเคลียร์เพื่ออำพรางการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์นั้น ได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ซึ่งรวมถึงการที่สหภาพยุโรป (อียู) ห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านที่มีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นความพยายามที่จะบีบให้อิหร่านยกเลิกกิจกรรมการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม สำนักข่าวซินหัวรายงาน