นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ว่า ภารกิจเยือนเยอรมนีและฝรั่งเศส เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลได้ติดตามเศรษฐกิจของยุโรป ดังนั้นการเดินทางเยือนทั้งสองประเทศที่เป็นคู่ค้าการส่งออกสำคัญของไทย จึงตองการรับฟังข้อเท็จจริงต่างๆ รวมถึงการมีความร่วมมือและสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน และใช้วิกฤติเป็นโอกาสในการลงทุนใหม่ๆของไทย เพราะทั้ง 2 ประเทศก็ให้ความสำคัญกับรัฐบาลไทยที่มาจากประชาธิปไตย
สำหรับการหารือกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนีในการหารือกับนายกฯให้ความสนใจในเรื่องความเป็นมาของประเทศไทย และให้ความสำคัญในเรื่องระบอบประชาธิปไตย รวมถึงให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม แนวทางป้องกัน และการลงทุน ก็เป็นโอกาสของประเทศไทยในการสร้างความมั่นใจ ส่วนการหารือทวิภาคีมีความร่วมมือด้านการศึกษา เทคโนโลยี ซึ่งอาชีวะศึกษา ทำความร่วมมือกับภาควิทยาลัยอาชีวะ
นอกจากนี้เยอรมันจะให้ความร่วมมือในเรื่องเศรษฐกิจสีเขียว การใช้พลังงานทดแทน ซึ่งไทยหวังที่จะไปในทิศทางนี้ด้วย โดยเยอรมนีมีการใช้เทคโนโลยีด้านนี้สูงมาก อีกเรื่องของการหารือ คือการค้าทางการเกษตร ซึ่งเบื้องต้นเยอรมันจะส่งเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลควบคุมคุณภาพสินค้าการเกษตร เพื่อให้ผลิตผล ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ ของไทยได้รับการยอมรับ และมีมาตรฐานในการส่งออกไปยังประเทศในแถบยุโรปมากขึ้นด้วย
ขณะที่การเดินทางมาเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสนั้ ได้เดินทางพร้อมนักธุรกิจไทย 73 ราย เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในการค้าขาย โดยเฉพาะฝรั่งเศส ที่ทั่วโลกถือว่าเป็นแหล่งรวมของแฟชั่น ทำให้ไทยมีโอกาสเปิดตลาดสิ่งทอ ผลักดันผ้าไทยให้มีโอกาสถูกนำไปใช้ในภาคธุรกิจสิ่งทอมากขึ้น ขณะที่การค้าอัญมณี ก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มุ่งหวังต้องการมาเปิดตลาดด้วยเช่นกัน
"การเยือน 2 ประเทศนี้ว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยจะได้มาแสดงความมีน้ำใจ ห่วงใยกันในระดับประเทศ เนื่องจากภูมิภาคยุโรปยังคงตกอยู่ในช่วงสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ" นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว