นายจุมพล ชูวงษ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ออกข้อกำหนดเพื่อรักษาความเรียบร้อยในวันที่ 9 ส.ค.55 ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดฟังการพิจารณาคำสั่งต่อคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญที่ขอให้เพิกถอนการประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 24 คน ซึ่งเป็นจำเลยในคดีร่วมกันก่อการร้าย เนื่องจากคาดว่าจะมีประชาชน ผู้สนใจ ผู้สนับสนุน และสื่อมวลชนมาศาลเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น เพื่อรักษาความเรียบร้อยเพื่อให้กระบวนพิจารณาดำเนินไปด้วยความเที่ยงธรรมและรวดเร็ว อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลอาญา โดยห้ามมิให้ผู้ใดประพฤติตนในทางที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ก่อความรำคาญในบริเวณศาลหรือกระทำการในลักษณะที่เป็นการยั่วยุสนับสนุนในบริเวณศาล
ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดัง อันเป็นการรบกวนการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในศาล, ห้ามนำสินค้ามาวางจำหน่าย อันเป็นการกีดขวางทางเข้าออกศาลอาญา และศาลอื่นริมถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่ศาลแขวงพระนครเหนือ ศาลอุทธรณ์ ศาลแพ่ง จรดศาลอาญา ผู้ใดฝ่าฝืนการกระทำดังกล่าว ถือกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ระวางโทษจำคุก 6 เดือน
ด้านนายประยุทธ ศิริล้น ผู้อำนวยการประจำสำนักอำนวยการศาลอาญากล่าวว่า ได้ประสานขอกำลังตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่เพิ่มจากเดิม ทั้งตำรวจนครบาล ตำรวจคอมมานโดกองปราบ ตรึงกำลังหน้าศาล พร้อมทั้งเตรียมสถานที่และกางเต็นท์รองรับผู้สนับสนุนบริเวณลานจอดรถไว้แล้ว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ซึ่งศาลออกหมายเรียกนายจตุพร มาสอบถามเกี่ยวกับการกระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนประกันนั้น ได้มีกลุ่มบุคคลและสื่อมวลชนเดินทางมาศาลเป็นจำนวนมากจนเกิดความไม่เรียบร้อย เช่น การใช้รถติดตั้งเครื่องขยายเสียงเพื่อปราศรัยจนก่อให้เกิดเสียงดังเป็นเหตุให้เกิดความขัดขวางต่อการพิจารณาคดีนี้ และคดีอื่นๆ ของศาลอาญา ศาลแพ่ง ศาลอุทธรณ์ ศาลแขวงพระนครเหนือ อีกทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนแกนนำฯ ที่มาให้กำลังใจมีลักษณะก่อความวุ่นวายไม่เหมาะสม มีการนำสินค้ามาวางจำหน่ายบนทางเท้าและล้ำลงไปในถนนทำให้การจรจรติดขัด ทั้งที่เป็นการสอบถามนายจตุพรเพียงคนเดียว