นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จะมีการประชุมคณะทำงานที่เป็นตัวแทนของพรรคร่วมรัฐบาลนัดแรกในวันที่ 7 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น.ที่พรรคเพื่อไทย โดยในการประชุมแต่ละครั้งจะเวียนใช้สถานที่ของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อไม่ให้พรรคใดพรรคหนึ่งเป็นเจ้าภาพ
สำหรับการประชุมพรุ่งนี้จะมีความชัดเจนในประเด็นต่าง ๆ และมีกรอบมากขึ้น ซึ่งคณะทำงานจะพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตน เพื่อวิเคราะห์จากความคิดของคณะตุลาการฯ ว่าควรจะเดินต่อไปอย่างไร เช่น ในจำนวน 4 คนที่มีความเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรที่จะรับพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291 แต่อีก 4 คนเห็นสมควรว่ารับได้ นั่นหมายความว่าตุลาการมีความเห็น 4 ต่อ 4 เท่ากัน แต่คำวินิจฉัยกลางกลับออกมาว่าให้ไปทำประชามติก่อน ซึ่งเป็นความคลางแคลงใจอยู่ เราก็ย้อนไปดูว่าใครมีความเห็นอย่างไรในคำวินิจฉัยส่วนตน บางอาจคนให้ความเห็นไว้บางเรื่อง คณะทำงานชุดนี้ก็สามารถที่จะเอาประเด็นต่าง ๆ มาพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
พร้อมยืนยันว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้จะไม่มีการเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ เพราะจากสถิติการทำงานของสภาฯ เชื่อว่าการพิจารณากฎหมายทั้ง 10 ฉบับที่กำหนดไว้คิดว่าคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 1 เดือน ดังนั้น สิ่งที่สังคมกังวลว่าจะมีการหยิบยกร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ มาพิจารณาในเร็ว ๆ นี้คงเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ได้ชี้แจงให้ทางวิปให้เข้าใจตรงกันเพื่อที่จะนำไปชี้แจงให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ได้รับทราบ และชี้แจงกับประชาชนว่าอย่าไปเชื่อในสิ่งที่อาจมีคนไปพูด ให้เกิดกระแสของความขัดแย้งกัน
"หากการทำงานของสภาคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว เรื่องร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ ก็จะเขยิบขึ้นมา แต่หากเราเห็นว่าบรรยากาศการพิจารณาเรื่องพ.ร.บ.ปรองดอง ฯ ไม่เหมาะสมก็จะหาร่างกฎหมายอื่นมาพิจารณาก่อนได้" นายอุดมเดช กล่าว
ส่วนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางรัฐบาลของฝ่ายค้านนั้น นายอุดมเดช กล่าวว่า เรื่องนี้ยังจะใช้เวลาอีกซักระยะในการบรรจุระเบียบวาระเข้าที่ประชุม ซึ่งในการประชุมสภาสัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ที่ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมาธิการฯแล้ว โดยจะเสนอต่อสภาและเริ่มพิจารณาวาระ 2 -3 ในสัปดาห์หน้า ทั้งนั้ เชื่อว่าฝ่ายค้านน่าจะญัตติเมื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นเดือน
นายอุดมเดช กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯว่า ได้สอบถามฝ่ายเลขาธิการสภาแล้ว ทราบว่าในวาระ 2-3 ใน 4 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 51-54 ก็มีการถ่ายทอดออกอากาศ ซึ่งที่ผ่านมาใช้เวลา 40 ชั่วโมง และปีที่แล้วใช้เวลา 44 ชั่วโมง ดังนั้น ก็จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปหารือกับตัวแทนวิปฝ่ายค้าน เพื่อที่จะกำหนดกรอบเวลาอภิปราย และสรุปจำนวนวันในการพิจารณา