นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย หนึ่งในคณะทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการทำงานที่ชัดเจน เพราะต้องหารือถึงเนื้อหาสาระที่จะมีการประชุมถกเถียงกันก่อน เพื่อให้เกิดความรอบคอบมากที่สุด และสร้างความมั่นใจต่อ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล, ส.ว. และประชาชน
สำหรับการประชุมของคณะทำงานฯ จะเน้นศึกษาคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลัก เนื่องจากคำวินิจฉัยมีผลผูกพันทุกองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ส่วนคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญนั้นไม่มีผลผูกพันต่อองค์กร ส่วนการจัดทำประชามติที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญระบุไว้ให้จัดทำหลังสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จจะถือเป็นการทำประชามติตามความหมายของศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ และเห็นว่าหากมีการจัดทำประชามติไม่ควรยึดตามมาตรา 165 ตามรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ระบุให้ใช้เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง แต่ควรยึดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ระบุให้ใช้เสียงข้างมากของผู้ที่ออกมาใช้สิทธิได้ตามที่เคยมีการจัดทำประชามติรับรัฐธรรมนูญปี 50
สำหรับการประชุมครั้งต่อไป คณะทำงานฯ อาจเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายภายนอก เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกา รัฐสภา หรือนักวิชาการด้านกฎหมายมหาชน มาให้คำปรึกษาเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดความรอบคอบมากที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้มีการยื่นคำร้องเข้าข่ายล้มล้างการปกครองอีกในอนาคต