นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ทางพรรคจะไม่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 หรือแม้แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะมีความมั่นใจในตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตลอดจนรัฐมนตรีทั้งคณะ ที่สามารถชี้แจงข้อซักถามของฝ่ายค้านซักได้ ขณะเดียวกันผลงานของรัฐบาลล้วนจับต้องได้ มีนโยบายเร่งด่วนที่หาเสียงไว้สามารถทำได้จริง
ทั้งนี้ขอให้ฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ ทำหน้าที่โดยไม่ล้ำเส้น ไม่อยากให้เกิดรอยด่างพร้อยซ้ำเดิม เหมือนเช่นที่เกิดขึ้นตอนอภิปรายร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางอันธพาล
“การอภิปรายงบประมาณ หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านทำอะไรรัฐบาลไม่ได้อยู่แล้ว เพราะผลงานตลอด 1 ปี ที่ผ่านมามันปรากฏชัดอยู่ ถ้าฝ่ายค้านใช้เวทีอภิปรายงบประมาณเปิดศึกซักฟอกเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็จะตกม้าตายเอง คะแนนนิยมของนายอภิสิทธิ์ ที่ต่ำกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ"นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ส่วนการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลพร้อมให้ฝ่ายค้านตรวจสอบตามกติกาประชาธิปไตย จะไม่มีการตั้งองครักษ์อะไรขึ้นมาเช่นเดียวกัน และหวังว่าฝ่ายค้านจะเน้นการอภิปรายไปที่เนื้อหาสาระ มากกว่าเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องไร้สาระที่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน รวมทั้งการขุดเรื่องเก่า พาดพิงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นเพียงหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ และการปรับครม.อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นจินตนาการที่เกินเลยของนายเทพไท การกล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิดนั้น เป็นการดูถูกน้ำใจคนไทย และเป็นเกมการเมืองที่ต้องการลดความน่าเชื่อถือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวหาไร้อย่างไร้สาระ ดังนั้นตนเองจะห้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่าจะฟ้องหมิ่นประมาทหรือไม่
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกว่าคนเก่าแก่ของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มมีความรู้สึกไม่ดีกับสถานภาพของพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เกิดความเอือมระอาแกงค์ไอติม เพราะคนรุ่นใหม่ทำให้พรรคตกต่ำ เป็นรัฐบาล 2 ปี 8 เดือน ไม่สามารถสร้างผลงาน แพ้เลือกตั้งอย่างงหมดสภาพ มาเป็นฝ่ายค้านก็ขาดคุณภาพอีก ไม่เหลือภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยเป็นฝ่ายค้านเข้มแข็ง ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จ และมีการหารือเป็นการภายในที่จะเปลี่ยนตัวผู้นำพรรค ซึ่งเรื่องนี้ต้องสอบถามข้อเท็จจริงจากนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน