กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่า การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่อิหร่านซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว 2 ระลอกใหญ่เมื่อวันเสาร์นั้น เป็นประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ
นางวิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐได้กล่าวกับสื่อมวลชนระหว่างการแถลงข่าวตามปกติว่า “สหรัฐต้องการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวอิหร่านในระหว่างนี้ โดยอาจให้มีการบริจาคอาหารและยาโดยไม่ต้องขอใบอนุญาตการทำธุรกรรมกับอิหร่าน"
นอกจากนี้นางนูแลนด์ได้เสริมว่า “การทำธุรกรรมทางการเงินส่วนบุคคลโดยไม่ได้แสวงหากำไรในเชิงพาณิชย์บางประเภทกับอิหร่านจะสามารถกระทำได้โดยมีใบอนุญาตตามกฎหมายทั่วไป" โดยถือว่านโยบายข้อยกเว้นดังกล่าวเป็น “จุดยืน" ของรัฐบาลสหรัฐ
นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกของทำเนียบขาวได้ออกมาแสดงความพร้อมในการให้ความช่วยเหลืออิหร่านจากเหตุแผ่นดินไหว 2 ครั้งซ้อนที่รอยเลื่อนทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 306 รายและบาดเจ็บ 3,037 ราย
นางนูแลนด์ได้ชี้แจงว่าสหรัฐไม่ได้รับการขอความช่วยเหลือจากอิหร่านแต่อย่างใด และอิหร่านได้แถลงแล้วว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากต่างชาติ
อย่างก็ตาม นางนูแลนด์กล่าวว่า “ทางสหรัฐพร้อมยื่นมือให้ความช่วยเหลืออิหร่านเสมอ"
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐและอิหร่านเริ่มร้าวฉานในปี 2523 และในขณะนี้ทั้งสองประเทศอยู่ในสภาวะขัดแย้งซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นด้วยประเด็นโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน
ทางสหรัฐและประเทศพันธมิตรในยุโรปได้ร่วมกันออกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านหลายครั้งในช่วงหลายปีที่มีความขัดแย้ง ภายใต้คำสั่งจากสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่าน สำนักข่าวซินหัวรายงาน