นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) เรียกมือปืนสไนป์เปอร์ไปสอบสวนว่า เป็นความพยายามของฝ่ายการเมืองที่จะหาเรื่องเล่นงานตนเองและครอบครัว เพราะการดำเนินการของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ไม่มีการใช้สไนป์เปอร์ แต่เป็นปืนชนิดพิเศษที่คนใช้ต้องผ่านการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ และทุกขั้นตอนของการปฏิบัติ ศอฉ.มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้ง ส่วนคำสั่งให้ใช้ปืนเอ็ม 16 นั้นเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเท่านั้น
"รัฐบาลนี้ตีสองหน้าตลอด ส่งคนมาเจรจาให้ผมร่วมงานทางการเมือง อีกด้านหนึ่งเล่นงานผมทุกอย่าง เล่นงานลูกเมียและคนใกล้ชิด ผมจะไม่ยอมเป็นเครื่องมือของรัฐบาลนี้"นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พยายามจะโยนผิดให้ทหารเป็นผู้กระทำ และให้เห็นว่าตนเองเป็นคนสั่งการ และรู้มาว่ามีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนแล้วถึง 2 รอบ ดังนั้นอยากฝากให้รัฐบาลทำตามหน้าที่และกฎหมาย รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดงควรหยุดสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะใช้คดีมาบีบบังคับเพื่อให้พวกตนเองยอมรับกฎหมายนิรโทษกรรมหรือกฎหมายปรองดองนั้นคงทำไม่ได้ เพราะขัดหลักนิติรัฐ และนิติธรรม ซึ่งตนเองจะใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงในการต่อสู้คดี
นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจากศาลอาญาให้ไปเบิกความคดี 98 ศพ แต่เข้าใจว่าศาลจะให้ไปเบิกความในฐานะพยานคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในข้อหาหมิ่นประมาท แต่ลักษณะข่าวที่ออกมาสับสนว่าตนเองถูกฟ้องในฐานะเป็นจำเลย และมีความพยายามชี้นำว่าตนเองและนายอภิสิทธิ์เป็นผู้สั่งการ ซึ่งไม่น่าจะใช่และไม่ได้รู้สึกกังวลใจ พร้อมให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม