ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าของเสียชีวิตของบุตรชายนายชาดา ไชยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนาว่า ล่าสุดได้พูดคุยกับทางผู้บังคับการตำรวจภูธรนครราชสีมา โดยได้ตั้งแนวทางการสอบสวนไว้ 2 แนวทาง คือ การติดตามการลอบทำร้าย เพราะจากหลักฐานพบว่ามีการวางแผนให้รถไปวิ่งตัดหน้า ส่วนอีกหนึ่งแนวทางคือประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองและธุรกิจในท้องถิ่น ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ จึงขอความร่วมมือไปยังนายชาดา ว่าควรเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถสรุปเหตุการณ์ได้เอง
ทั้งนี้ การที่นายชาดา ยังไม่เดินทางมาให้ปากคำทันทีหลังเกิดเหตุ ไม่ได้ถือว่ามีนัยอะไรเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากอยู่ในช่วงของความโศกเศร้าเสียใจ และเป็นไปตามหลักของศาสนาอิสลาม ทั้งนี้เชื่อว่าคดีดังกล่าวจะคลี่คลายในเร็วที่สุด และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่
สำหรับการพิจารณาตัดสินถอนประกันตัวแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พ.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ได้รายงานสถานการณ์ให้ทราบทุกครึ่งชั่วโมง โดยมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น และไม่มีมือที่ 3 พร้อมเชื่อว่าแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจะเคารพคำตัดสินของศาลอาญา
ส่วนการเลื่อนการให้ปากคำของมือปืนสไนเปอร์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ไม่มีนัยอะไรเป็นพิเศษ และตนคงไม่ขอออกความเห็นแทนดีเอสไอ ขณะเดียวกันยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ไม่มีความขัดแย้งกับดีเอสไอ ซึ่งได้กำชับดีเอสไอว่าสำนวนในการสอบสวนจะต้องเป็นความลับของทางราชการ