สถานการณ์ระหว่างคาบสมุทรคุกรุ่นขึ้นอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่นักเคลื่อนไหวแดนปลาดิบได้เดินทางขึ้นไปยังเกาะพิพาทและถือธงชาติโบกสะบัดเหนือพื้นที่ที่ตกเป็นข้อพิพาทมานานแต่ก็ยังไม่ทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง ส่งผลให้ลูกหลานแดนมังกรลุกฮือประท้วงในหลายเมืองทันทีทันควัน
หมู่เกาะพิพาทที่กำลังทำให้แดนปลาดิบและแดนมังกรมองหน้ากันแทบไม่ติดอยู่ในขณะนี้นั้น มีชื่อว่า หมู่เกาะเตียวหยูในภาษาจีน และหมู่เกาะเซนกากุในภาษาญี่ปุ่น โดยหมู่เกาะดังกล่าวตั้งอยู่ในบริเวณทะเลจีนตะวันออก ทำเลที่ตั้งนั้นอยู่ใกล้กับเกาะโอกินาว่าของญี่ปุ่น เกาะไต้หวัน และทางตะวันออกของจีน
นอกจากหมู่เกาะดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกเกาะหนึ่งที่ทำให้เกิดสถานการณ์ทางการทูตขึ้นระหว่างแดนปลาดิบและแดนกิมจิ หลังจากที่ผู้นำเกาหลีใต้ได้เดินทางไปเยือนเกาะดกโดในภาษาเกาหลี หรือเกาะทาเคชิมะในภาษาญี่ปุ่น งานนี้ รัฐบาลฝ่ายแดนปลาดิบคงจะปวดหัวน่าดูกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทบจะต่อเนื่องกัน ในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ของเดือนสิงหาคม ข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองของทั้ง 3 ดินแดนก็ถูกจับตาจากสื่อไม่เว้นสัปดาห์
เริ่มจากช่วงต้นเดือนที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้เดินทางไปยังเกาะพิพาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำแดนกิมจิเดินทางเยือนหมู่เกาะที่เป็นข้อพิพาท โดยทางการเกาหลีใต้ได้แจ้งให้สถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงโซลทราบล่วงหน้าถึงการเดินทางดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้มีการล้มเลิกแผนการเดินทาง แต่ผู้นำโสมขาวก็ยังคงเดินหน้าเยือนเกาะพิพาทจนได้
นายโคอิจิโร่ เกมบะ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเกาหลีใต้กลับประเทศเป็นการชั่วคราว เพื่อประท้วงการที่ผู้นำเกาหลีใต้เดินทางเยือนหมู่เกาะทาเคชิมะ โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำกรุงโตเกียวเข้าพบเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อกรณีนี้มาแล้ว
สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ของญี่ปุ่น และรัฐมนตรีบางส่วนประชุมร่วมกันในวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อหารือถึงเรื่องมาตรการรับมือเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้เดินทางเยือนเกาะพิพาท และการแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวกับสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ
ครม.ญี่ปุ่นได้สั่งการให้รัฐมนตรีและหน่วยงานของรัฐบาลทุกหน่วยรายงานเรื่องการประชุม นโยบาย และโครงการที่เกี่ยวกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ภายในวันที่ 20 ส.ค. และเมื่อวันที่ 21 ส.ค. รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้เสนอเกาหลีใต้ให้หาข้อยุติในเรื่องดังกล่าวกับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อที่จะดึงให้นานาประเทศหันมาให้ความสนใจเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับเขตแดน อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้ระบุออกมาแล้วว่า จะปฏิเสธข้อเสนอเรื่องหมู่เกาะพิพาทดังกล่าวของญี่ปุ่น
ในวันนี้ (22 ส.ค.) ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะส่งตัวทูตญี่ปุ่นประจำเกาหลีใต้กลับไปประจำการที่กรุงโซล หลังจากที่เรียกตัวกลับประเทศเพื่อประท้วงการเดินทางเยือนเกาะพิพาท นายโคอิชิโร่ เกมบะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังส่งตัวทูตกลับไปยังเกาหลีใต้ในวันนี้ เพื่อที่จะได้มีบุคลากรประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ และสามารถตรียมความพร้อมเพื่อที่จะคลี่คลายข้อพิพาทบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ และเพื่อที่จะสื่อสารถึงจุดยืนของญี่ปุ่นถึงเรื่องดังกล่าวได้ดีกว่าเดิม
งานนี้เข้าทำนองสุภาษิตบ้านเราที่ว่า ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก เพราะคล้อยหลังมาไม่นาน นักเคลื่อนไหวชาวญี่ปุ่นอย่างน้อย 9 คนได้เดินทางเข้าไปยังหมู่เกาะเตียวหยูเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า เรือลาดตระเวนของหน่วยรักษาความปลอดภัยบริเวณชายฝั่งรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 7.30 น. มีนักเคลื่อนไหวอย่างน้อย 9 รายเดินทางขึ้นไปยังหมู่เกาะเตียวหยู โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวได้เดินทางถึงน่านน้ำบริเวณหมู่เกาะในช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์พร้อมกับนักเคลื่อนไหวแดนปลาดิบ 150 ราย และเรืออีก 21 ลำ
กลุ่มนักเคลื่อนไหวเปิดเผยถึงสาเหตุของการดำเนินการดังกล่าวว่า ทางกลุ่มวางแผนที่จะจัดพิธีรำลึกให้กับผู้ที่เสียชีวิตในสงครามเมื่อปี 2448 และตรวจสอบสภาพการทำประมงในบริเวณน่านน้ำใกล้กับหมู่เกาะ เพื่อประกาศว่า หมู่เกาะดังกล่าวอยู่ในอาณาเขตของดินแดนปลาดิบ
เหตุการณ์ในวันเดียวกันนี้เอง ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงชาวจีนในหลายเมืองและมณฑลเดินขบวนประท้วงการเคลื่อนไหวดังกล่าว มีประชาชนประมาณ 300 คนในเมืองเสิ่นเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ที่ได้เดินขบวนประท้วงและเผาธงชาติแดนปลาดิบที่อ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะที่ตกเป็นข้อพิพาท บางรายถึงกับทุบรถของตำรวจที่ผลิตจากประเทศคู่กรณีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังได้มีการเรียกร้องผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตให้มีการเดินขบวนประท้วงในเมืองต่างๆกว่า 10 เมือง ซึ่งรวมถึงเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นทำเลที่บริษัทสังกัดแดนซากุระจำนวนมากเปิดสำนักงานอยู่
การประท้วงยังเกิดขึ้นที่ฮ่องกง โดยมีกลุ่มผู้ประท้วงประมาณ 200 รายที่ได้เดินขบวนไปยังสถานกงสุลของแดนซากุระ พร้อมกับตะโกนคำขวัญต่อต้านญี่ปุ่น
มาร์ติน แพเทียนซ์ จากสำนักข่าวบีบีซีในกรุงปักกิ่งมองว่า การประท้วงที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ภายใต้การดูแลและสกัดไว้ได้เป็นอย่างดีได้เกือบทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมา ทางการแดนมังกรมักจะใช้ปัจจัยเรื่องความรู้สึกในการต่อต้านแดนซากุระมาเป็นเครื่องมือ เพื่อที่จะหันเหความสนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อกฎเกณฑ์การปกครองของประเทศ
เสียงสะท้อนจากสื่อต่างประเทศดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดระหว่างแดนปลาดิบและแดนกิมจิเป็นอย่างยิ่ง หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นมุกคลาสสิคที่นักการเมืองไม่ว่าจะประเทศใดนิยมนำมาใช้ แม้แต่นักการเมืองบ้านเราก็นิยมนำมุกคลาสสิคนี้มาใช้ ด้วยการยืมมือเพื่อนบ้านมาเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจภายในประเทศ ดังจะเห็นได้หลายต่อหลายครั้งเมื่อเกิดสถานการณ์ร้อนแรงทางการเมืองภายในประเทศหรือเกิดเหตุอื้อฉาวที่เกี่ยวพันกับตนเองและพวกพ้อง
นักการเมืองจากพรรคฝ่ายค้านของแดนกิมจิบางส่วนมองว่า การเดินทางไปยังเกาะพิพาทของนายลีนั้นเป็นเกมการเมืองที่มีเป้าหมายที่จะปรับปรุงภาพลักษณ์ของตนเอง หลังจากที่สื่อภายในประเทศต่างพากันรายงานข่าวเรื่องความผิดปกติด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับพี่ชายคนโตของเขา รวมทั้งผู้ช่วยที่มีความใกล้ชิดกับตนเอง ดังจะเห็นได้จากผลการสำรวจความคิดเห็นชาวเกาหลีใต้ล่าสุดที่ชี้ว่า คะแนนสนับสนุนประธานาธิบดีลี เมียง บัค พุ่งสูงขึ้น หลังจากที่เขาได้เดินทางไปเยือนหมู่เกาะในบริเวณทะเลญี่ปุ่นที่แดนปลาดิบอ้างในกรรมสิทธิ์และเกาหลีใต้ควบคุม เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลให้เกิดสถานการณ์ทางการทูตขึ้น
นสพ.จุงอัง อิลโบ รายงานว่า คะแนนสนับสนุนของนายลีเพิ่มขึ้นเป็น 34.7% จากผลการสำรวจเมื่อวันที่ 15-17 ส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 9 จุด จากการสำรวจเมื่อสัปดาห์ก่อน
ด้วยทำเลทองของหมู่เกาะเจ้าปัญหานี้เองที่เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของข้อพิพาท หมู่เกาะซึ่งไม่มีประชากรอาศัยอยู่จำนวน 8 เกาะนั้นมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 7 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในจุดที่เป็นช่องทางการเดินเรือที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นแหล่งประมงที่อุดมสมบูรณ์ และคาดว่าจะมีแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่ด้วย
เช่นเดียวกับเกาะดกโดที่มีรายงานว่า เป็นแหล่งแร่และก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาลเช่นกัน
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นายชินทาโร่ อิชิฮาร่า ผู้ว่าการกรุงโตเกียวเคยประกาศในระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐว่า ตนเองวางแผนที่จะใช้เงินประชาชนเพื่อซื้อหมู่เกาะพิพาท โดยเขาได้เจรจากับนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของเกาะ 3 แห่งในหมู่เกาะพิพาท และคาดว่าข้อตกลงดังกล่าวจะสามารถสรุปได้ภายในช่วงสิ้นปี
แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะไม่ได้รับการสนับสนุน เนื่องจากการนำภาษีของประชาชนมาใช้เพื่อซื้อหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวถึง 1,900 กิโลเมตรนั้น อาจจะเป็นเรื่องของการใช้งบประมาณที่ไม่สมเหตุสมผลเท่าไร แต่ผู้ช่วยของผู้ว่าการกรุงโตเกียวระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการขอให้ประชาชนบริจาคเงินเพื่อซื้อหมู่เกาะดังกล่าว
การที่แดนปลาดิบต้องเผชิญกับสถานการณ์ข้อพิพาทเช่นนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอิทธิพลของจีนที่มีมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่ญี่ปุ่นจะต้องพิจารณานโยบายทางการทูตของตนเอง สำหรับกรณีของแดนกิมจินั้น ดูเหมือนว่า ญี่ปุ่นจะเลือกใช้วิธีการที่รอบคอบมากกว่าที่จะหักด้ามพล้าด้วยเข่า แต่สถานการณ์จะลงเอยเช่นไรนั้น เป็นเรื่องที่ต้องติดตามตอนต่อไป