นายถวิล เปลี่ยนสี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด้จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือน พ.ค.53 ที่ถูกมองว่าถูกบิดเบือนว่า การปฎิบัติงานใน ศอฉ.ทุกคำสั่งเป็นไปตามหลักสากล เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานด้วยความรับผิดชอบและเห็นควรจะได้รับการยกย่องมากกว่าจะถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายฆ่าประชาชน และการเปิดใจครั้งนี้ไม่ได้แก้ต่างให้ ศอฉ.แต่เห็นว่าขณะนี้มีการกล่าวหานอกศาลว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้ร้ายฆ่าประชาชน ทั้งๆ ที่ศาลยังไม่ได้ตัดสิน
"สรุปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการที่เจ้าหน้าที่ออกไปปฎิบัติงาน ไประงับความรุนแรง และการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพื่อความสงบเรียบร้อย การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความรับผิดชอบชั่วดี เจ้าหน้าที่ควรได้รับการยกย่องมากกว่าก่นด่าว่าฆ่าประชาชน" นายถวิล กล่าว
นายถวิล กล่าวว่า คำสั่งในการปฎิบัติงานทุกเรื่องได้มีการหารือของ ศอฉ.ซึ่งหากเรื่องใดที่ไม่ถูกต้องหรือมีความเห็นต่างก็จะมีการคัดค้านจากทางคณะกรรมการใน ศอฉ. และคำสั่งของ ศอฉ.ทุกเรื่องได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว
ส่วนคำสั่งทางยุทธการที่สั่งการออกไปจนส่งผลกระทบต่อความขัดแย้งในปัจจุบันนั้น นายถวิล กล่าวว่า ไม่มีคำสั่งใดที่จะไม่ชอบด้วยกฏหมายหรือลุแก่อำนาจ และไม่มีเรื่องใดที่เป็นความลับและคณะกรรมการใน ศอฉ.ทุกคนรับทราบ จึงถือว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ส่วนคำสั่งทางยุทธการที่เผยแพร่ทางสื่ออนไลน์ในขณะนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ควรนำออกมาเปิดเผย เพราะเป็นความลับทางราชการ แต่หากจะเปิดเผยก็ขอให้เป็นไปตามกฏหมาย
ส่วนประเด็นชายชุดดำที่หลายฝ่ายยังกังขาและยังไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ นายถวิล กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองได้พูดหลายครั้งแล้วแต่มีประเด็นอื่นๆ มากลบ ทำให้ประเด็นชายชุดดำถูกมองข้าม ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจับกุมผู้กระทำความผิด แต่ทราบว่าได้รับการประกันตัวเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้นายถวิลปฏิเสธที่จะวิพากวิจารณ์การทำหน้าที่ของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ที่ถูกมองว่าเปลี่ยนจุดยืนในการทำหน้าที่ โดยระบุว่า ส่วนตัวก็ให้กำลังใจในการทำงาน เพราะเห็นว่านายธาริตเป็นมืออาชีพในการทำงาน ซึ่งในช่วงที่นายธาริตทำงานใน ศอฉ.ก็ได้ให้คำแนะนำในหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ในขณะนั้น และเชื่อว่าการทำหน้าที่ของนายธาริตในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ต้องรักษาความยุติธรรม ก็คงจะไม่ละทิ้งความยุติธรรม
นายถวิล กล่าวว่า ข้อมูลในเรื่องนี้ได้เปลี่ยนไปตามรัฐบาล แต่ยืนยันว่าตนเองจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และความรับผิดชอบ จะไม่ยอมทำงานเพื่อรักษาตำแหน่ง เพราะหากเป็นเช่นนั้นตนเองคงไม่มาทำงานในจุดนี้ พร้อมทั้งฝากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องทำงานโดยยึดหลักจริยธรรม ซื่อสัตย์ และอย่าทำเรื่องผิดให้กลายเป็นถูก