ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปก่อกวนการจัดกิจกรรมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ว่า ได้มีโอกาสหารือกับนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำชมรมคนรักอุดรฯ แล้ว ซึ่งนายขวัญชัย ได้รับปากจะไปเจรจากับแกนนำเสื้อแดงในพื้นที่ต่างๆ ให้ โดยเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงพร้อมที่จะรับฟัง
"ผมไม่กล้ามั่นใจ 100% แต่เมื่อคุณจตุพร(พรหมพันธุ์) และคุณขวัญชัย รับปาก ซึ่งทั้ง 2 คนก็เป็นคนที่คนเสื้อแดงให้ความเชื่อถือและรับฟัง ซึ่งคงจะดีขึ้น" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมยอมรับว่ารู้สึกหนักใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ทั้งนี้หากพรรคประชาธิปัตย์จะจัดกิจกรรมทางการเมืองก็สามารถติดต่อมาได้ที่ตน เพื่อประสานและสั่งการให้ตำรวจในพื้นที่เข้าไปช่วยดูแลความปลอดภัยรวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกกับการจัดกิจกรรมต่างๆ ของพรรคได้
ร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ยังกล่าวถึงกรณีที่ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี ถูกคนร้ายนำถุงใส่ระเบิดชนิด MK2 มาแขวนไว้ที่กระจกมองข้างรถว่า น่าจะเป็นเรื่องการข่มขู่ ซึ่ง นพ.ตุลย์เอง ก็ไม่ปักใจเชื่อว่าการก่อเหตุที่เกิดขึ้นจะมีเหตุจูงใจมาจากเรื่องการเมือง
"หมอตุลย์ ไม่ปักใจว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่ผมในฐานะตำรวจเก่ามองว่าเป็นลักษณะการข่มขู่ คงไม่ใช่คิดร้าย เพราะหมอตุลย์ไปไหนมาไหนก็คนเดียวตลอด" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมาพบเพื่อกำชับให้มีการเข้มงวดในการกวาดล้างอาวุธให้มากขึ้น
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เชื่อว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะนำเอาข้อห่วงใยของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาทักท้วงต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อต้านนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำไปปรับใช้รูปแบบและวิธีการเคลื่อนไหวต่อไป โดยมั่นใจว่ากลุ่มคนเสื้อแดงมีวิจารณญาณเพียงพอในการแสดงออก และรับผิดชอบในการเคลื่อนไหวทุกครั้ง แต่ละสถานการณ์ก็้เกิดเฉพาะที่เท่านั้น ซึ่งแม้ตนเองจะเป็นแกนนำ แต่ก็ไม่สามารถไปบังคับหรือสั่งกลุ่มคนเสื้อแดงได้
ส่วนการที่คนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวนั้น อาจเป็นเพราะกลุ่มคนเสื้อแดงยังคงติดค้างในเรื่องของความรู้สึกที่เกิดจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 แต่ก็เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลแต่อย่างใด