น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางลงไปยังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ตั้งใจจะไปให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ แต่กลับได้รับกำลังใจและความอบอุ่นจากประชาชนพื้นที่ทำให้รู้สึกดีใจ และต้องการมารับฟังปัญหาครั้งนี้เพื่อจะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมทั้งงบประมาณและกำลังคนเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งให้การทำงานมีใกล้ชิดและพร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริมาพัฒนาพื้นที่ แต่ภาครัฐยังต้องการความร่วมมือจากภาคประชาชนและผู้นำศาสนา โดยเฉพาะคำแนะนำจากประชาชนในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดความเหมาะสม
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่คอยดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่ แม้ตนเองจะไม่ได้ลงพื้นที่บ่อยแต่ก็รู้สึกห่วงใยและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อความเป็นพี่เป็นน้องจะทำให้เกิดสันติสุขและมีรอยยิ้มกลับคืนมาได้
ขณะที่ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีตั้งใจลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้กำลังใจคนทำงานและรับข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหลังจากรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว นายกรัฐมนตรีได้รับปากที่จะขจัดอุปสรรคในการทำงานพร้อมสั่งการให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รวมทั้งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณ และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด
ด้านผู้นำภาคประชาชน กล่าวว่า ในอดีตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบสุข แต่เหตุการณ์ความรุนแรงทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป ซึ่งประชาชนต่างต้องการกำลังใจ และการที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความหวังและมีกำลังใจมากขึ้น โดยอยากให้บรรยากาศความสุขกลับมาอีกครั้ง
ส่วนประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในนามผู้นำศาสนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้รู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาด้วยตัวเองและอนุมัติงบประมาณแก้ไขปัญหา