นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ว่า จากการทดสอบการระบายน้ำในกทม.ฝั่งตะวันตก รวมถึงปริมาณน้ำในขณะนี้ถือว่าไม่น่าเป็นห่วง โดยพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติต์ อยู่ที่ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร มีเพียงพอนำไปใช้เพื่อการเกษตรในพื้นที่ 7 ล้านไร่ หรือ 7 พันลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสัก ซึ่งเคยกังวลมีเหลือเพียง 14-15% ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 30% แล้ว
ทั้งนี้จากการทดสอบการระบายน้ำในฝั่งตะวันตก คลองทวีวัฒนา พบว่ามีปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาด ซึ่งวางเป้าหมายที่ระดับน้ำหน้าคลองทวีวัฒนาจะอยู่ที่ 90 เซ็นติเมตรจากระดับน้ำทะเล แต่เมื่อทดสอบการระบายน้ำพบว่าสูงแค่77 เซ็นติเมตร จากการเพิ่มประมาณน้ำจากคลองอีก 15 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จากปริมาณน้ำที่มีอยู่ในระบบ ซึ่งจากผลการทดสอบทำให้ชี้ชัดว่า การใช้เครื่องผลักดันน้ำวางในตำแหน่งใด และมีประสิทธิภาพอย่างไรให้เหมาะสม
"จากผลที่คาดการณ์ คิดว่าน้ำในคลองทวีวัฒนาซึ่งสามารถระบายได้ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร/วินาที เมื่อทดสอบที่ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร/วินาที หรือคิดเป็น 25% ของความสามารถการระบายน้ำ แต่พบว่ามีแค่ 20% ถือว่าระบายน้ำได้ดีกว่าที่คาด ทำให้มั่นใจขึ้น จึงมีการทดสอบถึง 17 ล้านลูกบาศก์เมตร/วินาที พบว่าไม่ถึง 30% ของขีดความสามารถการระบายน้ำ ทำให้คิดว่า เราจะใช้เครื่องผลักดันน้ำที่มีอยู่วางตำแหน่งอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพเท่าไร" นายรอยล กล่าว
ทั้งนี้การทดสอบการระบายน้ำฝั่งตะวันตก เมื่อวันพุธที่ 5 ก.ย.55 จึงไม่กระทบประชาชน เพราะมีการรอบคอบทั้งระบบ และมีการแบ่งน้ำจากคลองบางแวก และบางไผ่ ทำให้การไหลของน้ำสะดวกมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ คลองทวีวัฒนา เข้าสู่ระบบปกติแล้ว และการทดลองในวันดังกล่าว ยังทำให้สามารถใช้เครื่องมือในการระบายน้ำครั้งต่อไปดีขึ้น ส่วนการทดสอบการระบายน้ำในฝั่งตะวันออกในวันศุกร์ที่ 7 ก.ย. กันยายน ที่ยกเลิกเพราะมีปริมาณฝนมาก หน่วยงานได้นำเครื่องมือที่เตรียมพร่องน้ำในวันดังกล่าวนำมาใช้ได้จริง ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายนแล้ว จึงเหมือนไม่ใช่การยกเลิก แต่เป็นการนำข้อมูลจริงที่ได้ทดสอบและยืนยันว่าที่ประชาชนในพื้นที่บางปะอิน ได้รับผลกระทบนั้น ยืนยัน ไม่เกี่ยวกับการทดสอบการระบายน้ำ
ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า น้ำในประเทศยังอยู่ในระดับปกติ และมีปริมาณน้ำพอสมควร ซึ่งหากหมดฤดูฝนสิ้นเดือน ต.ค.จะสามารถคาดการณ์ถึงปริมาณน้ำได้เพื่อจัดสรรใช้ในกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ทางการเกษตรซึ่งเป็นห่วงว่าจะมีปริมาณน้ำใช้น้อยกว่าปีก่อนๆ นั้น โดยปกติจะมีการใช้น้ำราว 7 ล้านไร่ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณน้ำเพียงพอใช้เพื่อการเกษตร 5-6 ไร่