ศาลปกครองกลาง สั่งยกคำร้องของ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ขอให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม(เฉพาะ) ที่ 383/55 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2555 ที่ให้ พล.อ.เสถียร ไปช่วยปฏิบัติราชการที่สำนักงาน รมว.กลาโหม ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.55
หลังรับฟังได้ว่า พล.อ.เสถียร ได้ไปพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และนำบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลประจำปีงบประมาณ 2556 ซึ่งยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จไปมอบให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นการนำความลับของทางราชการไปเปิดเผยแก่บุคลลภายนอก และการไปพบ พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ใช่ขั้นตอนการปฏิบัติตามปกติของทางราชการ
ส่วนคดีในทำนองเดียวกันของ พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม สาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม(เฉพาะ) ที่ 383/55 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2555 ที่ให้ พล.อ.ชาตรี ไปช่วยปฏิบัติราชการที่สำนักงาน รมว.กลาโหม ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.55 ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และมีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง
หลังรับฟังแล้วไม่มีพยานหลักฐานว่า พล.อ.ชาตรี มีส่วนร่วมรู้เห็นในการนำความลับของทางราชการเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลประจำปีงบประมาณ 2556 ไปเปิดเผยแก่บุคลลภายนอก ประกอบกับการสั่งให้ข้าราชการไปช่วยปฏิบัติราชการในหน้าที่อื่นซึ่งไม่ใช่หน้าที่ตามปกติในตำแหน่งเดิมจะต้องมีเหตุผลเป็นพิเศษเพื่อประโยชน์ของทางราชการ หรือหากให้อยู่ในตำแหน่งเดิมจะสร้างความเสียหายให้แก่ทางราชการ อีกทั้งคำสั่งให้ไปช่วยราชการไม่ได้กำหนดวันสิ้นสุดจะกระทบต่อความมั่นคงในการปฏิบัติราชการเป็นอย่างยิ่ง ขัดต่อความมั่นคงในอาชีพตามระบบคุณธรรมที่ราชการยึดเป็นหลักการในการบริหารงานบุคคลมาโดยตลอด