"ยุทธศักดิ์"เผยผลถกดับไฟใต้เป็นประโยชน์-เห็นตรงกันหลายเรื่อง ยันศปก.จชต.ไม่ซ้ำซ้อน

ข่าวการเมือง Wednesday September 19, 2012 11:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลหารือแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้กับฝ่ายค้านเมื่อวานนี้ว่า มีหลายแนวทางที่เห็นตรงกัน และรัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งผลหารือดังกล่าวได้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยขน์ในหลายเรื่อง ขณะเดียวกันอาจมีความแตกต่างใน 2-3 เรื่อง แต่ในยุทธศาสตร์หลักก็เห็นตรงกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เรื่องไม่ให้มีการจัดตั้งเขตปกครองพิเศษ และการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ส่วนการปรับโครงสร้างใหม่นั้นยังมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง

สำหรับข้อคัดค้านการจัดตั้ง ศปก.จชต.ของฝ่ายค้านที่มองว่าอาจจะเป็นการทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานในพื้นที่นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ผบ.ทบ.ในฐานะ รอง ผอ.กอ.รมน.ได้มีการชี้แจงในที่ประชุมว่าหน่วยงานดังกล่าวไม่เกิดความซ้ำซ้อน และที่ประชุมเห็นตรงกันว่า การจัดตั้ง ศปก.จชต เป็นหน่วยงานที่สามารถปฎิบัติงานได้จริง

ทั้งนี้โครงสร้างของ ศปก.จชต.จะมีคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้(กปต.) ที่ตนเองเป็นประธาน ซึ่งก็ทำหน้าที่ในการขับเคลื่นนโยบายและเสนอต่อนายกฯ และคาดว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อเสนอจากผู้นำฝ่ายค่นแล้วจะนำข้อเสนอดังกล่าวไปปรับใช้ และภายใน1-2 วันนี้ คำสั่งการจัดตั้ง ศปก.จชต.จะแล้วเสร็จ ส่วนการประขุมครั้งต่อไปนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า หากมีการประชุมก็คงจะใช้รูปแบบเดิมแต่หากเป็นเรื่องปัญหาปลีกย่อยในพื้นที่ และ ส.ส.เจ้าของพื้นที่ก็สามารถเสนอผ่านสภาฯได้

ส่วนความกังวลเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังขาดแคลนอยู่ 4-5 พันนาย ซึ่งจะมีการฝึกและเพิ่มกำลังพลตามจำนวนที่ต้องการได้ ส่วนกำลังทหารนั้นทาง ผบ.ทบ.บอกว่า ขณะนี้มีเพียง 70% แต่จะเร่งดำเนินการให้ครบถ้วน โดยจะนำกำลังพลจากกองพลทหารราบที่ 5 และ 15 มาทดแทน

ส่วนแนวทางการสร้างความไว้วางใจเจ้าหน้าที่รัฐให้กับประชาชนในพื้นที่นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการนำหน่วยจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ และเน้นการใช้ความเสมอภาคและความยุติธรรม รวมถึงจะเพิ่มเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนในพื้นที่เข้าไปทำงานมากขึ้น และอาจจะมีการใช้อาสาสมัครเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น ให้อาสาสมัครเฝ้าระวังกล้อง CCTV พร้อมทั้งกำชับผู้ว่าฯ ใน 3 จังหวัด หากพื้นที่ใดมีความต้องการเร่งด่วนเรื่องการติดตั้งกล้องก็ให้เสนอมา โดยคาดว่าสามารถดำเนินการได้ในงบประมาณปี 2556

ส่วนกรณีที่ ครม.แต่งตั้ง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เป็นเลขา สมช.คนใหม่ แล้วมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการเมืองเข้าไปแทรกแซงนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ไม่ขอแสดงความเห็น และไม่ทราบว่ามีใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งต้องรอให้ พล.ท.ภราดร ได้ปฎิบัติงานก่อน ซึ่งเชื่อว่าการทำงานเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้จะเกิดความต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ